ทีมฟุตบอล – KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด https://kubethda.com แทงบอล เครดิตดีที่สุด Tue, 26 Jul 2022 03:31:46 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.2.2 https://kubethda.com/wp-content/uploads/2022/06/cropped-fav-32x32.png ทีมฟุตบอล – KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด https://kubethda.com 32 32 210484213 ประวัติสโมสรฟุตบอล ลียง ข้อมูลนักเตะ ผลงานรางวัลที่ผ่านมา https://kubethda.com/lyon/ Fri, 26 Feb 2021 08:15:54 +0000 https://kubethda.com/?p=16919 ลียง หรือ โอลิมปิกลียง เป็น สโมสรฟุตบอลอาชีพ ของ เมืองลียง เล่นอยู่ในลีกสูงสุดของฝรั่งเศสในลีกเอิง ซึ่งสโมสรได้ถูก ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1899 ในนามของ ลียงออแล็งปิกอูนีแวร์แตร์ แต่ก่ [...]

The post ประวัติสโมสรฟุตบอล ลียง ข้อมูลนักเตะ ผลงานรางวัลที่ผ่านมา appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
ลียง

ลียง หรือ โอลิมปิกลียง เป็น สโมสรฟุตบอลอาชีพ ของ เมืองลียง เล่นอยู่ในลีกสูงสุดของฝรั่งเศสในลีกเอิง ซึ่งสโมสรได้ถูก ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1899 ในนามของ ลียงออแล็งปิกอูนีแวร์แตร์ แต่ก่อตั้งในระดับประเทศในฐานะสโมสรในปี ค.ศ. 1950 สโมสรประสบความสำเร็จอย่างมากในศตวรรษที่ 21 สามารถชนะในการแข่งขันลีกเอิงที่จัดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศง2002 โดย ได้สร้างสถิติเป็นผู้ชนะเลิศ 7 ครั้ง และยังชนะในถ้วยทรอเฟเดช็องปียง 7 ครั้ง ชนะในถ้วยกุปเดอฟร็องส์ 5 ครั้ง และ ชนะในลีกเดอ 3 ครั้งและยังได้เข้าร่วมการแข่งขันใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาล 2009-2010 สามารถเข้าได้ถึงรอบรองชนะเลิศได้เป็นครั้งแรก ต่อมาก็ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศอีกครั้งในฤดูกาล 2019–20 สนามกีฬาเหย้าของสโมสรคือสนามสตาดเดอแฌร์ล็อง (Stade de Gerland) และในปี ค.ศ. 2013 สนามแห่งใหม่พร้อมที่จะเปิด KUBET1668 คาดว่าจะใช้ชื่อว่า โอแอลแลนด์ (OL Land)

ประวัติ ความเป็นมา

ลียง ได้ถูกสร้างขึ้นภายในการควบคุมดูแลของ มัลติสปอร์ต ในชื่อ สโมสรฟุตบอลลียอออแล็งปิกยูนิเวอร์ซิทายริ ในปี ค.ศ. 1986 ภายหลังจากการก่อตั้งสโมสรได้เกิดความขัดแย้งภายในหลายเรื่องของการอยู่ร่วมกันของนักฟุตบอลสมัครเล่น และนักฟุตบอลมืออาชีพในสโมสรแล้วผู้จัดการของสโมสร เฟลลิก โลรูด์ และสตาฟโค้ชของสโมสรได้คิดสร้างสโมสรของตัวเอง เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ค.ศ. 1950  ในแผนการของ โลรูด์ สร้างมาเพื่อการบรรลุผลเมื่อโอลิมปิกลียอแน ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการหลังจาก ดร. อัลเบิร์ท และ บุคคลจากเมืองลียง ได้ช่วยกันสนับสนุนเป็นอีกแรง ซึ่งผู้จัดการทีมคนแรกของสโมสรคือ ออสการ์ เฮอิสเซเลอร์ และเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 1950 สโมสรได้ลงเล่นนัดแรกอย่างเป็นทางการด้วยการเอาชนะแคลิฟอร์เนียปารีส ไป 3-0 และ ใน ช่วงคริสต์ทศวรรษ 2000 เป็นช่วงรุ่งเรืองของลียงอย่างแท้จริง โดย ชนะเลิศในลีกเอิงถึง 7 สมัยซ้อน ระหว่าง ค.ศ. 2002–2008 ชนะเลิศ ทรอเฟเดช็องปียง ถึง 6 สมัยซ้อนระหว่าง ค.ศ. 2002 –2007 กุปเดอลาลีกใน ค.ศ. 2001 อีก 1 สมัย และ กุปเดอฟร็องส์ใน ค.ศ. 2008 อีก 1 สมัย และสามารถผ่านเข้าสู่รอบลึกของรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ถึงแม้ว่า ลียง จะเป็นทีมฟุตบอลที่ไม่ใช่ทีมใหญ่โตอะไร โดยมีชื่อเสียงเป็นรองทีมอย่าง โอลิมปิก มาร์กเซย, ปารีส แซงต์ แชร์กาแม็ง และ โมนาโก อยู่หลายขุมในช่วงก่อนเข้าสู่ยุค 90’s อย่างไรก็ตามอนาคตคือสิ่งที่สามารถสร้างเองได้และสิ่งที่ทุกสโมสรบนโลกนี้ต้องการหากอยากจะเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่คือ “ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์”

เรื่องราวของลียงนั้นเกิดจากนักธุรกิจชาวฝรั่งเศสที่มี ทรัพย์สินประมาณ 600 ล้านยูโร ได้เข้ามาซื้อทีมในปี 1987 ด้วยแนวคิดที่ผสมผสานกันระหว่าง นักธุรกิจบวกกับคนที่รักในกีฬาฟุตบอล นั่นคือทีมจะต้องทำเงิน มีฐานการเงินที่แข็งแกร่ง และสำคัญที่สุดคือต้องประสบความสำเร็จด้วย ซึ่งนี่คือโจทย์ที่หินที่สุด แต่ โอลาส ก็ฉลาดพอที่จะค่อย ๆ แก้ไขปัญหาไปทีละเรื่อง

นอกจากที่เขาจะได้เริ่มทยอยเคลียร์บัญชีของทีมจากหนี้เก่า ๆ จนหมดแล้ว โอลาส ยัง ได้นำทีมเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์และได้สร้างแบรนด์ให้ ลียง เป็นทีมที่ขายได้ ไม่ใช่แค่ในเรื่องฟุตบอลภายใต้แบรนด์ OL ในส่วนของทีมฟุตบอลที่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดนั้น โอลาส ก็ได้เปลี่ยนแปลงการบริหารใหม่ด้วย ทุกการลงทุนของเขานั้นจะต้องทำให้สโมสรเดินหน้าได้อย่างแข็งแกร่งจะต้องเป็นเงินต่อเงิน ไม่ใช่เงินสร้าง ด้วยแนวคิดที่เป็นการสร้างทีมแบบซื้อมาขายไป นักเตะทุกคนสามารถประเมินค่าเป็นเงินได้ทั้งหมด หากมากพอทางสโมสรจะไม่รั้งใครไว้ พวกเขาจะรับเงินมา ปล่อยนักเตะไป จากนั้นก็ลงทุนอย่างชาญฉลาดต่อไปเรื่อย ๆ และเมื่อถึงจุดหนึ่งทุกอย่างก็แข็งแกร่งแม้จะต้องรอถึง 15 ปี ก็ตาม โอลาส ได้พาทีมขึ้นสู่ลีกสูงสุดในปี 1989 และในช่วงยุค 90 ลียงได้เริ่มมีชื่อเสียงในลีกเอิงโดยได้ไต่ไปถึงการได้เป็นถึงรองแชมป์ลีกในปี 1994-1995 แต่ความพยายามของพวกเขาก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ อย่างดีก็เป็นได้แค่รองแชมป์ แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่ในเวลานั้นก็คือ ทาง ลียง ได้เริ่มรวบรวมนักเตะฝีเท้าดีเอาไว้โดยที่เน้นไปที่นักเตะบราซิล ที่มีความสามารถสูงและขายต่อได้

ในช่วงหลังปี 2000 นักเตะบราซิลได้เริ่มทยอยเข้าสู่ทีมเป็นชุดแรก ซึ่งถือได้ว่าเป็นชุดที่เริ่มต้นเข้าสู่ยุคสมัยอันยิ่งใหญ่ของ ลียง เลยก็ว่าได้ เพราะ 3 นักเตะอย่าง จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่, ซอนนี่ อันแดร์สัน และ เอ็ดมิลสัน คือ 3 แซมบ้าที่สามารถใช้คำว่า “เก่งเกินลีกเอิง” ณ เวลานั้นได้จริง

เมื่อระบบได้เปลี่ยนด้วยการดึงนักเตะเก่ง ๆ มารวมตัวกัน ลียง ก็คว้าแชมป์ลีกเอิงสมัยแรกในฤดูกาล 2001-02 จากนั้น นโยบายดังกล่าวของพวกเขาก็ติดปีก เพราะไม่ใช่แค่นักเตะบราซิลอีกแล้วที่ถูกนำเข้ามา ลียง ยังได้ส่งแมวมองไปทั่วโลกโดยเฉพาะในแอฟริกา นอกจากนี้ยังไปสอดส่องนักเตะจากลีกเล็ก ๆ ในยุโรปอย่าง โครเอเชีย, เบลเยียม, สวีเดน, นอร์เวย์ รวมไปถึงการหานักเตะมีแววในลีกเอิงเอง เรียกได้ว่า ลียง หมดงบไปกับการสเกาต์นักเตะจำนวนไม่น้อยเลยก็ว่าได้

หลังจากปี 2002 ลียงก็ได้เริ่มต้นสู่ความยิ่งใหญ่โดยได้คว้าแชมป์ลีกเรื่อยมาจนถึงปี 2008 ถือได้ว่าเป็นยุคที่เรียกได้ว่า “ลียง ลงเป็นยิง” ของแท้ของจริงเลยก็ว่าได้ พวกเขาเป็นที่ที่เล่นในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้อย่างที่ไม่เคยกลัวใคร ตลอดยุคทองที่กินเวลาราว 10 ปี ลียง สามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มเข้าไปเล่นรอบน็อคเอาต์ได้แทบทุกฤดูกาล บางปีเข้าไปถึงรอบตัดเชือกเลยด้วยซ้ำ

QRcode Line UFA007

สนามเหย้าของทีม

ปาร์กอแล็งปิกลียอแน ซึ่งมีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า กร็องสตาด และ สตาดเดลูเมียร์ เป็นสนามฟุตบอลของ ออแล็งปิกลีอยแน เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2555 พื้นสนามเป็นแอร์ไฟเบอร์ไฮบริดกราส สนามมีขนาด 105 × 68 เมตร (344 × 223 ฟุต) โดยสนามมีความจุ 59,186 ที่นั่ง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเดซี-ชาร์ปีเยอ ใกล้กับลียง โดยใช้แทนที่ สตาดเดอแฌร์ล็องซึ่งเป็นสนามเก่า KUBET369 ตั้งแต่เดือนมกราคม 2559 โดยสนามแห่งนี้มีแผลที่จะใช้งานในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 และฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2019

ผลงานสร้างชื่อ

➰ ระดับประเทศ

➰ ลีกเอิง : ชนะเลิศ : 2001–02, 2002–03, 2003–04, 2004–05, 2005–06, 2006–07, 2007–08

➰ ลีกเดอ : ชนะเลิศ : 1950–51, 1953–54, 1988–89

➰ กุปเดอฟร็องส์ : ชนะเลิศ : 1963–64, 1966–67, 1972–73, 2007–08, 2011–12

➰ กุปเดอลาลีก : ชนะเลิศ : 2000–01

➰ ทรอเฟเดช็องปียง : ชนะเลิศ : 1973, 2002, 2003, 2004, 2005, 2006, 2007, 2012

➰ ระดับทวีปยุโรป

➰ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก : รอบรองชนะเลิศ : 2009–10, 2019–20

➰ ยูฟ่ายูโรปาลีก : รอบรองชนะเลิศ : 2016–17

➰ ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ : รอบรองชนะเลิศ : 1963–64

➰ ยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ : ชนะเลิศ : 1997



ผู้เล่นชุดปัจจุบัน ฤดูกาล 2020 – 2021

เบอร์เสื้อ นักเตะ ตำแหน่ง สัญชาติ อายุ
ผู้รักษาประตู
30 ยูเลี่ยน โพลเลอร์สเบ็ค ผู้รักษาประตู เยอรมนี 26
1 แอนโธนี่ โลเปส ผู้รักษาประตู โปรตุเกส 30
40 มัลคอล์ม บาร์โกล่า ผู้รักษาประตู โตโก 21
กองกลาง
27 แม็กซ์เวล กอร์กเน่ต์ เซ็นเตอร์แบ็ค โกตดิวัวร์ 24
26 เมลวิน บาร์ด เซ็นเตอร์แบ็ค ฝรั่งเศส 20
3 ฌาเมล เอ็ดดีน เบนลามรี่ เซ็นเตอร์แบ็ค แอลจีเรีย 31
5 เจสัน เดนาเยอร์ เซ็นเตอร์แบ็ค เบลเยียม 25
2 ซินาลี่ ดิโอมานเด้ เซ็นเตอร์แบ็ค โกตดิวัวร์ 19
19 เกงค์ ออซคาการ์ เซ็นเตอร์แบ็ค ตุรกี 20
6 มาร์เชโล่ เซ็นเตอร์แบ็ค บราซิล 33
22 มัตเตีย เด ชิโญ่ แบ็คขวา อิตาลี 28
14 เลโอ ดูบัวส์ แบ็คขวา ฝรั่งเศส 26
กองกลาง
23 ติอาโก้ เมนเดส มิดฟิลด์ตัวรับ บราซิล 28
8 ฮุสเซม อาอูอาร์ มิดฟิลด์ตัวกลาง ฝรั่งเศส 22
25 มักซ็องซ์ แกเกเรต์ มิดฟิลด์ตัวกลาง ฝรั่งเศส 20
39 บรูโน่ กิลมาเรส มิดฟิลด์ตัวกลาง บราซิล 23
15 คามิโล่ มิดฟิลด์ตัวกลาง บราซิล 21
10 เมมฟิส เดอปาย ปีกซ้าย เนเธอร์แลนด์ 27
18 ไรอัน แชร์กี้ มิดฟิลด์ตัวรุก ฝรั่งเศส 17
12 ลูคัส ปาเกต้า มิดฟิลด์ตัวรุก บราซิล 23
33 ยาย่า ซูมาเร่ ปีกขวา ฝรั่งเศส 20
กองหน้า
20 อิสลาม สลิมานี่ กองหน้าตัวเป้า แอลจีเรีย 32
7 คาร์ล โตโก เอคัมบี้ กองหน้าตัวเป้า แคเมอรูน 28
11 ติโน่ คาเดแวร์ กองหน้าตัวเป้า ซิมบับเว 25

LineBar

The post ประวัติสโมสรฟุตบอล ลียง ข้อมูลนักเตะ ผลงานรางวัลที่ผ่านมา appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
16919
ประวัติสโมสร ลีลล์ ข้อมูลทั้งหมด รายชื่อนักเตะ ผลงานรางวัลที่ผ่านมา https://kubethda.com/lille/ Fri, 26 Feb 2021 08:15:53 +0000 https://kubethda.com/?p=16918 ประวัติทีม ฟุตบอลลีลล์ สโมสรกีฬาโอลิมปิกลีล (ฝรั่งเศส : Lille Olympique Sporting Club) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า ล็อสก์ลีล (LOSC Lille) และ ลีล (Lille) ฉายา : Les Dogues (The Mastiffs) เ [...]

The post ประวัติสโมสร ลีลล์ ข้อมูลทั้งหมด รายชื่อนักเตะ ผลงานรางวัลที่ผ่านมา appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
ลีลล์

ประวัติทีม ฟุตบอลลีลล์

สโมสรกีฬาโอลิมปิกลีล (ฝรั่งเศส : Lille Olympique Sporting Club) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า ล็อสก์ลีล (LOSC Lille) และ ลีล (Lille) ฉายา : Les Dogues (The Mastiffs) เป็นสโมสรฟุตบอลมืออาชีพของประเทศฝรั่งเศส ก่อตั้งเมื่อ วันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 1944 เล่นอยู่ในลีกเอิง ซึ่งเป็นลีกฟุตบอลสูงสุดของประเทศฝรั่งเศส มาเกือบตลอด เคยได้แชมป์ลีกเอิง 3 สมัย ในฤดูกาล 1945-46, 1953-54 และล่าสุดใน ฤดูกาล 2010-11 ได้แชมป์ลีกเดอ 4 สมัย, กุปเดอฟร็องส์ 6 สมัย และในระดับการแข่งขันทวีปยุโรปเคยได้แชมป์ KUBET 1668 ยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ 1 สมัย ในปี 2004 ปัจจุบันสโมสรใช้สนาม สตาดปีแยร์-โมรัว เป็นสนามเหย้าในการแข่งขันเมื่อเป็นเจ้าบ้าน สามารถจุผู้เข้าชมได้ถึง : 50,186 ที่นั่ง



ผลงานทีมฟุตบอลลีลล์

ระดับประเทศ

✅ ลีกเอิง ชนะเลิศ (3) : 1945–46, 1953–54, 2010–11

✅ ลีกเดอ ชนะเลิศ (4) : 1963–64, 1973–74, 1977–78, 1999–00

✅ กุปเดอฟร็องส์ ชนะเลิศ (6) : 1945–46, 1946–47, 1947–48, 1952–53, 1954–55, 2010–11

✅ กุปเดอลาลีก รองชนะเลิศ (1) : 2015–16

✅ กุปกัมบาร์เดลลา ชนะเลิศ (1) : 1960

✅ กุปชาร์ลดราโก รองชนะเลิศ (2) : 1954, 1956

ระดับทวีปยุโรป

✅ ยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ ชนะเลิศ (1) : 2004

UFA เว็บพนันออนไลน์ เดิมพัน KUBET1668 ผ่านมือถือ สมัครง่าย มีระบบออโต้ หน้าเว็บ ฝากถอนรวดเร็ว มีครบจบที่เว็บเดียว แทงบอล คาสิโน สล็อต บาคาร่า ฝากขั้นต่ำ 10 บาท

ตราสัญลักษณ์

สถิตินักเตะทีมลีลล์ ฤดูกาล 2020-21

5 อันดับทำประตูสูงสุด

🥅 บูรัค ยิลมาซ 9 ประตู

🥅 โฌนาต็อง บ็องบา 9 ประตู

🥅 ยูซุฟ ยาซิซี่ 6 ประตู

🥅 โจนาธาน ดาวิด 4 ประตู

🥅 ลุยซ์ อาเราโย่ 3 ประตู

5 อันดับทำแอสชิสต์สูงสุด

⚽ โฌนาต็อง บ็องบา 7 ครั้ง

⚽ บูรัค ยิลมาซ 4 ครั้ง

⚽ ยูซุฟ ยาซิซี่ 3 ครั้ง

⚽ เซคิ เซลิค 2 ครั้ง

⚽ เซคิ เซลิค 2 ครั้ง


นักเตะทีมลีลล์

ผู้เล่นนักเตะทีมลีลล์ สโมสรในลีกเอิง ฝรั่งเศส 2020-21

เบอร์เสื้อ นักเตะ ตำแหน่ง
1 โอเรติส คาร์เนซิส ผู้รักษาประตู
30 ลูกัส เชวาลิเยร์ ผู้รักษาประตู
16 ไมค์ เมญอง ผู้รักษาประตู
29 โดมากอย บราดาริช เซ็นเตอร์แบ็ค
28 เรย์นิลโด้ มันดาวา เซ็นเตอร์แบ็ค
6 โชเซ่ ฟอนเต้ เซ็นเตอร์แบ็ค
5 สเวน บ็อตแมน เซ็นเตอร์แบ็ค
3 ติอาโก้ ยาโล เซ็นเตอร์แบ็ค
2 เซคิ เซลิค แบ็คขวา
26 เฌเรมี่ ปิเอด์ แบ็คขวา
27 คห์ นีอัสส์มิ ดฟิลด์ตัวรับ
2 บูบาการี่ ซูมาเร่ มิดฟิลด์ตัวรับ
15 ยูเจนิโอ ปิซซูโต้ มิดฟิลด์ตัวรับ
8 เซก้า มิดฟิลด์ตัวกลาง
18 เรนาโต้ ซานเชส มิดฟิลด์ตัวกลาง
21 แบ็งฌาแม็ง อ็องเดร มิดฟิลด์ตัวกลาง
7 โฌนาต็อง บ็องบา ปีกซ้าย
12 ยูซุฟ ยาซิซี่ มิดฟิลด์ตัวรุก
11 ลุยซ์ อาเราโย่ ปีกขวา
10 โฌนาต็อง อิโกเน่ ปีกขวา
19 อิซาค ลิฮัดจิ ปีกขวา
22 ทิโมธี เวอาห์ กองหน้าตัวเป้า
9 โจนาธาน ดาวิด กองหน้าตัวเป้า
17 บูรัค ยิลมาซ กองหน้าตัวเป้า
23 ฟาดิก้า อวตตาร่า กองหน้าตัวเป้า

 

LineBar

The post ประวัติสโมสร ลีลล์ ข้อมูลทั้งหมด รายชื่อนักเตะ ผลงานรางวัลที่ผ่านมา appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
16918
ประวัติสโมสร เบรนท์ฟอร์ด ผลงานรางวัล อัพเดทรายชื่อนักเตะ https://kubethda.com/brentford/ Fri, 26 Feb 2021 08:15:51 +0000 https://kubethda.com/?p=16917 สโมสรฟุตบอล เบรนต์ฟอร์ด เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพ ที่มีฉายาว่า “ผึ้ง” ตั้งอยู่ที่เมือง เบรนต์ฟอร์ด ใน เกรเทอร์ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันแข่งขันในแชมเปียนชิป ลีกฟุตบอลระดับที่สองของปร [...]

The post ประวัติสโมสร เบรนท์ฟอร์ด ผลงานรางวัล อัพเดทรายชื่อนักเตะ appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
เบรนท์ฟอร์ด

สโมสรฟุตบอล เบรนต์ฟอร์ด เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพ ที่มีฉายาว่า “ผึ้ง” ตั้งอยู่ที่เมือง เบรนต์ฟอร์ด ใน เกรเทอร์ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันแข่งขันในแชมเปียนชิป ลีกฟุตบอลระดับที่สองของประเทศ สโมสรถูกก่อตั้งเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1889 สนามเหย้าคือ กริฟฟินปาร์ก ใช้งานมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1904 เบรนต์ฟอร์ด เคยเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศของเอฟเอคัพถึงสี่ครั้งและเป็นรองแชมป์ฟุตบอลลีกโทรฟีถึงสามสมัย KUBET7777

สโมสรฟุตบอล เบรนต์ฟอร์ด มีประธานสโมสรชื่อ คลิฟ คราวน์ มีเจ้าของทีมชื่อ แมทธิว เบนัม และมีหัวหน้าผู้ฝึกสอนชื่อ โทมัส แฟรงก์ แข่งในลีก แชมป์เปียนชิป


สนามเหย้าของทีม

ในปี 1904 ทางสโมสร เบรนท์ฟอร์ด ได้ลงสนาม กริฟฟินปาร์ก เป็นสนามที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเวลานั้น และได้ย้ายที่ตั้งสนามมาอยู่ที่ Matthew Benham ซึ่งมีชื่อเดียวกับเจ้าของสโมสร โดยมีความจุของสนามอยู่ที่ 20,000 ที่นั่ง และมีแผนที่จะย้ายไปอยู่ที่สนามกีฬาแห่งใหม่โดยที่ แมทธิว เบนัม ได้ ซื้อพื้นที่ 7.6 เอเคอร์ใน Lionel Road South Brentford ที่ถนน Braemar ซึ่งทีมเป็นที่รู้จักกับในชื่อ Bees United เข้าเดิมพัน KUBET 1668

รายชื่อนักเตะของทีม ฤดูกาล 2020-2021

เบอร์เสื้อ นักเตะ ตำแหน่ง สัญชาติ อายุ
ผู้รักษาประตู
1 ดาบิด ราย่า ผู้รักษาประตู สเปน 25
28 ลุค แดเนียลส์ ผู้รักษาประตู อังกฤษ 33
กองหลัง
3 ริโก้ เฮนรี่ เซ็นเตอร์แบ็ค อังกฤษ 23
วินสตัน รีด เซ็นเตอร์แบ็ค นิวซีแลนด์ 32
4 ชาร์ลี กู๊ด เซ็นเตอร์แบ็ค อังกฤษ 25
32 ลูก้า ราซิช เซ็นเตอร์แบ็ค เดนมาร์ก 21
18 ปอนตุส ยอนส์สัน เซ็นเตอร์แบ็ค สวีเดน 30
5 อีธาน พินน็อก เซ็นเตอร์แบ็ค อังกฤษ 27
29 แมดส์ เบ็ก โซเรนเซ่น เซ็นเตอร์แบ็ค เดนมาร์ก 22
30 แมดส์ โรเออร์สเลฟ ราสมัสเซน แบ็คขวา เดนมาร์ก 21
22 เฮนริก ดัลสการ์ด แบ็คขวา เดนมาร์ก 31
30 Fin Stevens แบ็คขวา อังกฤษ 17
กองกลาง
27 วิตาลี ยาเนลต์ มิดฟิลด์ตัวรับ เยอรมนี 22
14 โจชัว ดา ซิลวา มิดฟิลด์ตัวรับ อังกฤษ 22
8 มาธิอัส เยนเซ่น มิดฟิลด์ตัวกลาง เดนมาร์ก 25
6 คริสเตียน นอร์การ์ด มิดฟิลด์ตัวกลาง เดนมาร์ก 26
26 ชานดอน บาปติสเต้ มิดฟิลด์ตัวกลาง เกรเนด้า 22
31 ยาน ซามบูเร็ค มิดฟิลด์ตัวกลาง สาธารณรัฐเช็ก 20
24 ทาริก โฟซู ปีกซ้าย กานา 25
20 ซามาน ก๊อดดอส มิดฟิลด์ตัวรุก อิหร่าน 27
9 เอมิเลียโน่ มาร์คอนเดส มิดฟิลด์ตัวรุก เดนมาร์ก 25
7 เซร์กี้ กานอส ปีกขวา สเปน 24
19 ไบรอัน เอ็มบูโม่ ปีกขวา ฝรั่งเศส 21
กองหน้า
15 มาร์คุส ฟอร์สส์ กองหน้าตัวเป้า ฟินแลนด์ 21
17 อิวาน โทนี่ย์ กองหน้าตัวเป้า อังกฤษ 24

ผลงานสร้างชื่อ

🏃 ลีก (ชนะเลิศและเลื่อนชั้น)

🏃 เซคกันด์ดิวิชั่น / เฟิสต์ดิวิชัน / แชมเปียนชิป (ระดับ 2)

 

ชนะเลิศ : 1934–35

💥 เทิร์ดดิวิชัน / เซคกันด์ดิวิชั่น / ลีกวัน (ระดับ 3)

ชนะเลิศ : 1932–33 (ตอนล่าง), 1991–92

รองชนะเลิศ : 1929–30, 1957–58, 1994–95, 2013–14

🎯 โฟร์ทดิวิชัน / เทิร์ดดิวิชัน / ลีกทู (ระดับ 4)

ชนะเลิศ : 1962–63, 1998–99, 2008–09

อันดับที่สาม : 1971–72

อันดับที่สี่ : 1977–78

🎯 เซาเทิร์นลีก เซคกันด์ดิวิชั่น : 1

1900–01

🎯 ลอนดอนลีกเฟิสต์ดิวิชัน: 1

รองชนะเลิศ : 1897–98

🎯 ลอนดอนลีกเซคกันด์ดิวิชัน: 1

รองชนะเลิศ : 1896–97

🎯 เวสต์ลอนดอนอัลไลแอนซ์: 1

1892–93

🎯 ถ้วย

🎯 มิลเดิลเซ็กซ์จูเนียร์คัพ : 1

1893–94

🎯 เวสต์มิลเดิลเซ็กซ์คัพ : 1

1894–95

🎯 ลอนดอนซีเนียร์คัพ : 1

1897–98

🎯 มิดเดิลเซ็กซ์ซีเนียร์คัพ : 1

1897–98

🎯 เซาเทิร์นโปรเฟสชันนัลชาริตีคัพ : 1

1908–09

🎯 อีลลิงฮอสพิทัลคัพ : 1

1910–11

🎯 ลอนดอนแชลเลนจ์คัพ : 3

1934–35, 1964–65, 1966–67

🎯 ช่วงสงคราม

🎯 ลอนดอนคอมบิเนชัน : 1

1918–19

🎯 ลอนดอนวอร์คัพ : 1

1941–42

The post ประวัติสโมสร เบรนท์ฟอร์ด ผลงานรางวัล อัพเดทรายชื่อนักเตะ appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
16917
ประวัติทีม เอซี มิลาน รายชื่อนักเตะ เกียรติประวัติ รางวัลที่ได้รับ https://kubethda.com/associazione-calcio-milan/ Fri, 26 Feb 2021 08:15:50 +0000 https://kubethda.com/?p=16916 ประวัติ ทีมฟุตบอล เอซี มิลาน สโมสรฟุตบอลมิลาน (อิตาลี: Associazione Calcio Milan) หรือ เอซี มิลาน (A.C. Milan) เรียกสั้น ๆ ว่า มิลาน ฉายาในสื่อไทยเรียกว่า ปีศาจแดง-ดำ เป็นสโมสรฟุตบ [...]

The post ประวัติทีม เอซี มิลาน รายชื่อนักเตะ เกียรติประวัติ รางวัลที่ได้รับ appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
เอซี มิลาน

ประวัติ ทีมฟุตบอล เอซี มิลาน

สโมสรฟุตบอลมิลาน (อิตาลี: Associazione Calcio Milan) หรือ เอซี มิลาน (A.C. Milan) เรียกสั้น ๆ ว่า มิลาน ฉายาในสื่อไทยเรียกว่า ปีศาจแดง-ดำ เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพในเมืองมิลาน แคว้นลอมบาร์ดี้ ประเทศอิตาลี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 16 ธันวาคม ค.ศ. 1899  และเป็นหนึ่งในทีมฟุตบอล ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทีมหนึ่ง ในวงการฟุตบอลของยุโรปและของโลก โดย ได้แชมป์ระดับเมเจอร์รวมทั้งหมดถึง 46 รายการ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในทีม ที่ ได้รับความนิยมมากที่สุดในอิตาลี เช่นเดียวกับ ยูเวนตุส และอินเตอร์ นอกจากนี้ยังเป็นสมาชิกของกลุ่ม จี-14 ซึ่งเป็นกลุ่มของสโมสรฟุตบอลยักษ์ใหญ่ของทวีปยุโรปอีกด้วย

โดยมี อัลเฟรด เอ็ดเวิร์ดส์ ทำหน้าที่ประธานสโมสรเป็นคนแรก โดยหลังจากที่ไปขึ้นทะเบียนกับสหภาพฟุตบอลอิตาเลี่ยนแล้ว ทีมก็ได้เข้าร่วมชิงชัยในฟุตบอล รวมทั้งเริ่มสร้างสนามเพื่อใช้ในการเป็นเจ้าบ้านทางเข้า KUBET ภาษาไทย โดย ทำการสร้างสนามที่บริเวณทรอตเตอร์ ซึ่งในปัจจุบันก็คือ สถานีรถไฟกลางนั่นเอง

นัดเปิดสนามนัดแรกของสโมสรคือ การที่มิลานแข่งกับทีมเมดิโอลานุม ในวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 1900 และมิลานเอาชนะไปได้ 3-0

ในปี ค.ศ. 1919 สโมสรได้เปลี่ยนชื่อเป็น “Milan Football Club” จากนั้นในปี ค.ศ. 1936 ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “Milan Associazione Sportiva” ต่อมาในปี ค.ศ. 1938 เปลี่ยนมาเป็น “Associazione Calcio Milano” สุดท้ายเปลี่ยนมาเป็น “Associazione Calcio Milan” ในปี ค.ศ. 1945 และใช้ชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน

เอซี มิลาน ใช้ สีแดง-ดำ เป็นสีประจำทีม มีฉายาในภาษาอิตาเลี่ยนว่า “รอสโซ่เนรี่” หรือ “อิล ดิอาโวโล่” ส่วนในภาษาไทยเรียกว่า “ปีศาจแดง-ดำ” และเรียกเหล่ากองเชียร์ของสโมสรว่า “มิลานิสต้า”

ผู้สนับสนุนหน้าอกเสื้อ

เอซี มิลาน เริ่มมีสปอนเซอร์ติดหน้าอกเสื้ออย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1981 ซึ่งรายชื่อสปอนเซอร์หน้าอกเสื้อของมิลาน มีดังต่อไปนี้

ปี ผู้สนับสนุนหน้าอกเสื้อ
1981-1982 Pooh Jeans
1982-1983 Hitachi
1983-1984 Olio Cuore
1984 Rete 4
1984-1985 Oscar Mondadori
1985-1987 Fotorex U-Bix
1987-1992 Mediolanum
1992-1994 Motta
1994-2006 Opel
2006-2010 Bwin
2010-2020 Fly Emirates

ผู้สนับสนุนชุดแข่งขัน

เอซี มิลาน เริ่มมีผู้สนับสนุนชุดแข่งขันอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1978 โดยรายชื่อดังต่อไปนี้

ปี สปอนเซอร์ชุดแข่งขัน
1978-1979 Adidas
1979-1980 Adidas – Linea Milan
1980-1982 Linea Milan
1982-1984 NR
1984-1985 Rolly Go
1985-1986 Gianni Rivera
1986-1990 Kappa
1990-1993 Adidas
1993-1998 Lotto
1998-2018 Adidas
2018-2023 PUMA

 

ตราสัญลักษณ์

สนามทีมฟุตบอล

เอซี มิลาน ใช้สนาม “ซาน ซิโร่” หรือ “สตาดิโอ้ จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า” ซึ่งเป็นสนามประจำเมืองมิลาน มีความจุโดยประมาณ 80,074 คน (ปัจจุบัน)

เกียรติประวัติ และแชมป์ต่าง ๆ

ได้แชมป์ทั้งหมด 47 รายการ รองแชมป์ 38 รายการ (สิ้นสุดฤดูกาล 2011-12)

สโมสรโลก (อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ, โตโยต้าคัพ, ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ) (มากที่สุด)

📌 แชมป์ 4 สมัย : 1969, 1989, 1990, 2007

📌 รองแชมป์ 4 ครั้ง : 1963, 1993, 1994, 2003

ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (ยูโรเปียนคัพ)

📌 แชมป์ 7 สมัย : 1962-63, 1968-69, 1988-89, 1989-90, 1993-94, 2002-03, 2006-07

📌 รองแชมป์ 4 ครั้ง : 1957-58, 1992-93, 1994-95, 2004-05

ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ (ยูโรเปียนคัพวินเนอร์สคัพ)

📌 แชมป์ 2 สมัย : 1967-68, 1972-73

📌 รองแชมป์ 1 ครั้ง : 1973-74

ยูฟ่าซูเปอร์คัพ (ยูโรเปียนซูเปอร์คัพ) (มากที่สุด)

📌 แชมป์ 5 สมัย : 1989, 1990, 1994, 2003, 2007

📌 รองแชมป์ 2 ครั้ง : 1973, 1993

กัลโช เซเรีย อา (สกูเดตโต)

📌 แชมป์ 18 สมัย : 1901, 1906, 1907, 1950-51, 1954-55, 1956-57, 1958-59, 1961-62, 1967-68, 1978-79, 1987-88, 1991-92, 1992-93, 1993-94, 1995-96, 1998-99, 2003-04, 2010-11

📌 รองแชมป์ 17 ครั้ง : 1902, 1910–11, 1911–12, 1947–48, 1949–50, 1951–52, 1955–56, 1960–61, 1964–65, 1968–69, 1970–71, 1971–72, 1972–73, 1989–90, 1990–91, 2004–05, 2011-12

โกปปาอีตาเลีย

📌 แชมป์ 5 สมัย : 1966-67, 1971-72, 1972-73, 1976-77, 2002-03

📌 รองแชมป์ 7 ครั้ง : 1941-42, 1967-68, 1970-71, 1974-75, 1984-85, 1989-90, 1997-98

ซูแปร์โกปปาอีตาเลียนา (มากที่สุด)

📌 แชมป์ 6 สมัย : 1988, 1992, 1993, 1994, 2004, 2011

📌 รองแชมป์ 3 ครั้ง : 1996, 1999, 2003

รายชื่อนักเตะ ทีมเอซี มิลาน

เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
1 GK เบลเยียม ซิปริอง ทาทารูซานู
2 DF อิตาลี ดาวีเด คาลาเบรีย
4 DF แอลจีเรีย อิสมาเอล เบนนาเซอร์
5 DF โปรตุเกส ดีโยกู ดาโล
7 MF สเปน ซามู กาสตีเยโฆ
8 MF อิตาลี ซานโดร โตนาลี (ยืมตัวมาจาก เบรสชา)
9 FW โครเอเชีย  มาริโอ มานด์ซูคิช สัญญายืมตัว 1 ปี
10 FW ตุรกี ฮาคัน ชัลฮาโนลู
11 FW สวีเดน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
12 FF โครเอเชีย อันเต เรบิช
13 DF อิตาลี อาเลสซีโอ โรมัญญอลี
14 DF อิตาลี อันเดรีย คอนตี
17 FW โปรตุเกส ราฟาเอล เลเอา
18 MF อิตาลี ริกการ์โด มอนโตลีโว
19 DF ฝรั่งเศส ธีโอ เอร์นองเดซ
20 DF ฝรั่งเศส ปิแอร์ คาลูลู
21 MF สเปน บราฮิม ดิอาซ (ยืมตัวมาจาก เรอัล มาดริด)
22 DF อาร์เจนตินา มาเตโอ มูซัซเชียว
24 DF เดนมาร์ก ซิมง เคชียร์
27 FW อิตาลี ดาเนียล มัลดินี่
29 FW อิตาลี ลอเรนโซ โคลอมโบ
33 MF โครเอเชีย ราเด ครูนิช
43 DF บราซิล เลโอ ดูอาร์เต้
46 DF อิตาลี มัตเตโอ กับเบีย
56 MF เบลเยียม อเลกซิส ซาเลมักเกอร์ส
79 MF โกตดิวัวร์ ฟร็องก์ เกเซีย (ยืมตัวมาจาก อาตาลันตา)
90 GK อิตาลี อันโตเนียว ดอนนารุมมา
99 GK อิตาลี จันลุยจี ดอนนารุมมา

ทำเนียบทีมเอซี มิลาน

นักเตะทีมเอซี มิลาน เคยได้รับรางวัล “บัลลง ดอร์” หรือ “นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรป” มากที่สุด 8 ครั้ง ได้แก่

📍 จันนี รีเวรา ในปี 1969

📍 รืด คึลลิต ในปี 1987

📍 มาร์โก ฟัน บัสเติน ได้ 3 ครั้ง ในปี 1988, 1989 และ 1992

📍 จอร์จ เวอาห์ ในปี 1995

📍 อันดรีย์ เชฟเชนโค ในปี 2004

📍 กาก้า ในปี 2007

ผู้จัดการทีม

สเตฟาโน ปิโอลี เข้ามารับงานคุมมิลานเมื่อเดือนตุลาคม 2019 ด้วยสัญญาจนจบฤดูกาลนี้ แต่เจ้าตัวนำทีมไร้พ่ายในลีกมาถึง 15 เกมต่อเนื่องเข้าไปแล้ว ส่งผลให้ทีมทำอันดับการันตีได้ตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก ฤดูกาลหน้าเป็นที่แน่นอน เอซี มิลาน ตัดสินใจ ขยายสัญญาเพิ่มให้กุนซืออย่าง สเตฟาโน ปิโอลี ทำหน้าที่คุมทัพ “ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน แห่งเซเรีย อา อิตาลี ต่อจนถึงปี 2022  หลังจากพาทีมสร้างผลงานน่าประทับใจ จนคว้าตั๋วลุยถ้วยยุโรปในฤดูกาลหน้า

ทั้งนี้ ปิโอลี เคยคุมสโมสรดังในอิตาลีอย่าง ปาร์มา, ซาสซูโอโล, โบโลญญา, ลาซิโอ, อินเตอร์ มิลาน และ ฟิออเรนตินา มาแล้วด้วย เข้าเดิมพัน

รายชื่อนักเตะ ทีมเอซี มิลาน

ประธานสโมสร เอซี มิลาน

    🧿 เปาโล สกาโรนี

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ทีมปิศาจแดง ดำแถลงข่าว เปิดตัวกองหน้าจอมเก๋าความโครแอต เข้ามาเสริม KUBET7777 ความเฉียบคมในแดนหน้า ด้วยสัญญายืมตัวจนจบซีซั่น  มานด์ซูคิช ได้ย้ายกลับมาค้าแข้งในศึกกัลโช่ เซเรีย อา อีกครั้ง หลังบรรลุ ข้อตกลงเบื้องต้น 6 เดือน พร้อมออปชั่นขยายสัญญาอีก 1 ปี เพื่อล่าตาข่ายให้กับ เอซี มิลาน โดย ได้เสื้อหมายเลข 9 ไปเป็นกรรมสิทธิ์ สำหรับหัวหอกร่างโย่งวัย 34 ปีรายนี้ เคยมีประสบการณ์ในลีกสูงสุดของอิตาลีกับ “ม้าลาย” ยูเวนตุส ระหว่างปี 2015-2019 ยิงไปทั้งสิ้น 44 ประตู จากการลงสนาม 162 นัด กวาดแชมป์ เซเรีย อา 4 สมัย และ โคปปา อิตาเลียอีก 3 สมัย

The post ประวัติทีม เอซี มิลาน รายชื่อนักเตะ เกียรติประวัติ รางวัลที่ได้รับ appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
16916
ฟิออเรนติน่า ข้อมูลประวัติ รายชื่อนักเตะ ผลงานสโมสร https://kubethda.com/fiorentina/ Thu, 25 Feb 2021 08:15:49 +0000 https://kubethda.com/?p=16915 ฟิออเรนติน่า สโมสรทีมฟุตบอลชั้นนำของประเทศอิตาลี ปัจจุบันนี้เล่นอยู่ใน เซเรียอา สโมสรตั้งอยู่ ณ เมืองฟลอเรนซ์ เป็นคู่อริ กับต่าง เมืองตูริน อย่าง ทีมยูเวนตุส หลังเกิดเหตุการณ์ข้อกั [...]

The post ฟิออเรนติน่า ข้อมูลประวัติ รายชื่อนักเตะ ผลงานสโมสร appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
Fiorentina ฟิออเรนติน่า

ฟิออเรนติน่า สโมสรทีมฟุตบอลชั้นนำของประเทศอิตาลี ปัจจุบันนี้เล่นอยู่ใน เซเรียอา สโมสรตั้งอยู่ ณ เมืองฟลอเรนซ์ เป็นคู่อริ กับต่าง เมืองตูริน อย่าง ทีมยูเวนตุส หลังเกิดเหตุการณ์ข้อกังขาในนัดสุดท้ายลุ้นแชมป์เซเรียอา KUBET777 ในปี ค.ศ. 1981–82 จึงเป็นคู่ดาร์บีแมตช์ ตั้งแต่ ณ เวลานั้นเป็นต้นมา

ประวัติความเป็นมา

ฟิออเรนติน่า ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1926 โดยได้รับฉายาว่า Viola หรือ Gigliati มีชื่อฉายาในไทยว่า “ม่วงมหากาฬ” โดยได้รับเอกลักษณ์ที่ มีความโดดเด่นคือชุดที่ใส่ประจำทีมเป็นสีม่วงทั้งชุด เนื่องจากเป็นสีประจำเมืองฟลอเรนซ์ ฟิออเรนติน่า เคยตกชั้นหลายครั้งและเคยประสบวิกฤตจนเกือบถูกยุบสโมสร แต่ก็สามารถกลับคืนสู่ลีกสูงสุดจนปัจจุบัน ในปี ค.ศ. 2002

ซึ่งเจ้าของทีมจะมีอยู่ด้วยกัน 2 คน คือ ร็อคโค บี. คอมมิสโซ (98%) และ ฟิเรนเซ วิออล่า (2%) และมีประธานสโมสรชื่อ มาริโอ คอนยินี่ และมีผู้จัดการทีมชื่อ วินเชนโซ มอนเตลลา อดีตนักฟุตบอลทีมชาติอิตาลี โดยเล่นในตำแหน่งกองหน้า และได้ลงเล่นให้กับ โรม่า เป็นสโมสรสุดท้ายก่อนแขวนสตั๊ด เคยทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมสโมสรโรมา (ชั่วคราว), คาตาเนีย, ฟิออเรนตินา, ซัมป์โดเรีย และ เอซี มิลาน

โลโก้ทีม ฟิออเรนติน่า

ในปี 1998 – 1999 ทีมได้ประสบความสำเร็จซึ่งเป็นผลงานอันยอดเยี่ยมของ อัลแบร์โต มาเลซานี ที่พาทีมขึ้นไปติดอันดับท็อปไฟว์ ก่อนจะย้ายไปคุมปาร์มาในเวลาต่อมา หลังจากที่ช่วงต้นยุค 90s มาริโอ เซคคิ กอรี ลงทุนไปมากมายเพื่อซื้อสตาร์ชื่อดังเข้ามาร่วมทีม ทั้ง สเตฟาน เอฟเฟนแบร์ก, ไบรอัน เลาดรุ๊ป และ ฟรานเชสโก้ ไบยาโน แต่ผลงานของสโมสรกลับลุ่มๆ ดอนๆ ถึงขั้นเคยตกชั้นไปเล่นในเซเรีย บี

ผลงาน ฟิออเรนติน่า

และผู้ที่มารับไม้ต่อในตำแหน่งกุนซือคือ โจวานนี ตราปัตโตนี เขาไม่ทำให้คอบอลที่เชียร์ทีมนี้ต้องผิดหวังโดยได้นำ ทีมวิโอลา ขึ้นไปลุ้นแชมป์แบบจริง ๆ จังๆ ด้วยการเป็นจ่าฝูงอยู่พักใหญ่ ในส่วนของถ้วยบอลนั้นเขาก็ทำได้ไม่เลวสามารถเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ โคปปา อิตาเลีย ก่อนที่จะพ่ายแพ้ปาร์มาของกุนซือเก่าอย่าง มาเลซานี ไปอย่างน่าเสียดาย แต่บนเวทียุโรป พวกเขากลับทำได้ไม่ดีนัก เมื่อพ่ายแพ้กราสฮ็อปเปอร์ ซูริค ไปด้วยผลประตูรวม 3-2 และกระเด็นตกรอบยูฟ่า คัพ ไปเพียงรอบสองเท่านั้น

ในช่วงต้น ทศวรรษ 2000 พวกเขาประสบปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก ประกอบกับต้องสูญเสียสตาร์ประจำทีมอย่าง กาเบรียล บาติสตูต้า ไปให้ โรมา ก่อนเริ่มต้นฤดูกาล 2000 – 2001 แม้ ฟาติห์ เตริม จะทำผลงานได้น่าพอใจในปีนั้น แต่หลังจากที่กุนซือชาวตุรกีลาออกไป ผลงานของทีมวิโอลาก็ตกต่ำลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งตกชั้นในท้ายที่สุด เมื่อสิ้นฤดูกาล 2001 – 2002

หลังจากที่สโมสรได้ถูกตัดสินให้ล้มละลาย จนต้องไปตั้งสโมสรใหม่และเริ่มต้นตั้งแต่เซเรีย ซี 2 พวกเขาต่อสู้ดิ้นรนจนกระทั่งกลับขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จเมื่อสิ้นฤดูกาล 2003 – 2004 ด้วยการเล่นเพลย์ออฟ เอาชนะเปรูจาจากผลประตูรวม 2 – 1 ปัจจุบันพวกเขายังคงโลดแล่นอยู่ในลีกสูงสุดของอิตาลี และทำผลงานในฤดูกาลนี้ได้น่าพอใจไม่น้อย ทางเข้าเล่น ufa เว็บแทงบอลยอดนิยม

สนามเหย้าของทีม

สนามอาร์เตมีโอ ฟรังกี สนามฟุตบอลที่อยู่ใน เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอล ฟิออเรนติน่า ในอดีตสนามแห่งนี้มีชื่อว่า “โคมูนาเล” และชื่อสนามในตอนที่กำลังก่อสร้างชื่อ สนามกีฬาจีโอวานนี เบอร์ตา โดย ตั้งชื่อตามผู้นับถือลัทธิฟีออเรนติน

สนามแห่งนี้เคยใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 1934 และรอบคัดเลือกฟุตบอลโอลิมปิกฤดูร้อน 1960 โดยรอบสุดท้ายได้ จัดขึ้นที่โรมในปี ค.ศ.1945 ใช้จัดแข่งขันอเมริกันฟุตบอล สปาเกตตีโบว์ และในปี 1990 สนามแห่งนี้จะต้องใช้เป็นการแข่งขันฟุตบอลโลกจึงได้รับการปรับปรุง โดยได้ขยายความจุและได้รื้อลู่วิ่งออก โดยใช้สนามนี้จัดการแข่งขัน 3 นัด ในกลุ่ม A และรอบก่อนรองชนะเลิศที่ อาร์เจนตินาเอาชนะยูโกสลาเวีย ด้วยการยิงลูกโทษ

ที่นั่งของสนามมีความจุ 43,147 ที่นั่ง และเปิดใช้งานเมื่อ 13 กันยายน ค.ศ. 1931 โดย มีสถิติยอดผู้ชมสูงที่สุดถึง 58,271 คน เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1984 โดยเป็นการแข่งขันระหว่างฟีออเรนตีน่า และ อินเตอร์ มิลาน ใน เซเรียอา

ผลงานสร้างชื่อและถ้วยรางวัล

ถึงแม้ว่าทีมฟุตบอล ฟิออเรติน่า จะเป็นทีมใหญ่ แต่การคว้าตำแหน่งแชมป์ไปครองนั้นน้อยมาก นั่นอาจเป็น เพราะว่าแต่ละทีมในลีกนั้นมีความแข็งแกร่ง และทุกครั้งที่มีการแข่งขัน ทางเข้า KUBET ภาษาไทย จะต้องพบกับยักษ์ใหญ่ในลีกที่รวมไปด้วยนักเตะดัง ๆ ในทีมทั้งนั้นจนทำให้โอกาสที่จะเป็นแชมป์น้อยมาก

รายชื่อนักเตะ ฟิออเรนติน่า

📀 ระดับประเทศ

📀 เซเรียอา ชนะเลิศ : 1955 – 56, 1968 – 69

📀 โกปปาอีตาเลีย ชนะเลิศ : 1939 – 40, 1960 – 61, 1965 – 66, 1974 – 75, 1995 – 96, 2000 – 01

📀 ซูแปร์โกปปาอีตาเลียนา ชนะเลิศ : 1996

📀 ระดับทวีปยุโรป

📀 ยูฟ่าแชมเปียนลีก รองชนะเลิศ : 1956 – 1957

📀 ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ : ชนะเลิศ (1): 1960 – 61

📀 ยูฟ่าคัพ : รองชนะเลิศ (1): 1989 – 90

หัวใจของทีม

กาเบรียล บาติสตูต้า “บาติโกล” ได้ย้ายจาก โบคา จูเนียร์ส มาเล่นกับ ฟิออเรนติน่า เนื่องจากฟอร์มการเล่นของเขาได้ไปเตะตารองประธานสโมสรม่วงมหากาฬเข้าอย่างจัง เขาถือเป็นกองหน้าที่ทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอ โดยยิงได้ไม่ต่ำกว่า 13 ประตูในลีกทุกฤดูกาล ที่ค้าแข้งอยู่กับสโมสรแห่งนี้ แม้กระทั่งในฤดูกาล 1992 – 1993 ที่ ฟิออเรนตินา ตกชั้นไปอยู่เซเรีย บี ศูนย์หน้าอาร์เจนไตน์ก็ยังกดบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้ถึง 16 ลูกด้วยกัน

บาติสตูต้า มีชื่อเสียงในฐานะศูนย์หน้าที่ยิงบอลได้อย่างหนักหน่วงทั้งสองเท้า แต่เขาก็ยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ ในฐานะกองหน้าของเขาก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ทั้งการยิงด้วยเทคนิค การหาพื้นที่ การโหม่งทำประตู และการพักบอล จัดได้ว่าเป็นกองหน้าที่ครบเครื่องที่สุดคนหนึ่งของยุค หากมีการจัดอันดับยอดศูนย์หน้าในยุค 90s เขาจะต้องเป็นหนึ่งในนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย โดยการทำประตูของ บาติสตูต้า ส่งผลให้ ฟิออเรนตินา กลายเป็นทีมที่มีเกมรุกอันตรายที่สุดทีมหนึ่งของอิตาลีในยุค 90s กันเลยทีเดียว

ผู้เล่นชุดปัจจุบัน

เบอร์เสื้อ นักเตะ ตำแหน่ง สัญชาติ อายุ
ผู้รักษาประตู
69 บาร์ทโลมี ดรากอฟสกี้ ผู้รักษาประตู โปแลนด์ 23
33 เฟเดริโก้ บรันโคลินี่ ผู้รักษาประตู อิตาลี 19
อันโตนิโอ โรซาติ ผู้รักษาประตู อิตาลี 37
1 ปิเอโตร แตร์รัชชาโน่ ผู้รักษาประตู อิตาลี 30
กองหลัง
3 คริสเตียโน่ บิรากี เซ็นเตอร์แบ็ค อิตาลี 28
มักซิมิเลียโน่ โอลิเวร่า เซ็นเตอร์แบ็ค อุรุกวัย 28
27 อันโตนิโอ บาร์เรก้า เซ็นเตอร์แบ็ค อิตาลี 25
98 อีกอร์ เซ็นเตอร์แบ็ค บราซิล 23
4 นิโคล่า มิเลนโควิช เซ็นเตอร์แบ็ค เซอร์เบีย 23
2 ลูคัส มาร์ติเนซ ควอร์ต้า เซ็นเตอร์แบ็ค อาร์เจนตินา 24
22 มาร์ติน กาเซเรส เซ็นเตอร์แบ็ค อุรุกวัย 33
20 เคร์มัน เปซเซย่า เซ็นเตอร์แบ็ค อาร์เจนตินา 29
25 เควิน มัลควีต แบ็คขวา ฝรั่งเศส 29
23 ลอเรนโซ่ เวนูติ แบ็คขวา อิตาลี 25
กองกลาง
78 เอริค ปุลการ์ มิดฟิลด์ตัวรับ ชิลี 27
6 บอร์ฆ่า บาเลโร่ มิดฟิลด์ตัวกลาง สเปน 36
10 กาเอตาโน่ กาสโตรวิลลี่ มิดฟิลด์ตัวกลาง อิตาลี 23
5 จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า มิดฟิลด์ตัวกลาง อิตาลี 31
34 โซฟียาน อัมราบัต มิดฟิลด์ตัวกลาง โมร็อคโค 24
7 ฟร้องค์ ริเบรี่ ปีกซ้าย ฝรั่งเศส 37
92 วาล็องแต็ง เอย์สเซริซ มิดฟิลด์ตัวรุก ฝรั่งเศส 28
28 โตฟอล มอนติเอล มิดฟิลด์ตัวรุก สเปน 20
77 โฆเซ่ กาเยฆ่อน ปีกขวา สเปน 34
กองหน้า
9 ดูซาน วลาโฮวิช กองหน้าตัวเป้า เซอร์เบีย 21
11 คริสเตียน คูอาเม่ กองหน้าตัวเป้า โกตดิวัวร์ 23
11 Aleksandr Kokorin กองหน้าตัวเป้า รัสเซีย 29

LineBar

The post ฟิออเรนติน่า ข้อมูลประวัติ รายชื่อนักเตะ ผลงานสโมสร appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
16915
ประวัติทีม มิลาน รายชื่อนักเตะ อัพเดท ผลงาน รางวัลเกียรติยศ https://kubethda.com/milan/ Thu, 25 Feb 2021 08:15:48 +0000 https://kubethda.com/?p=16914 มิลาน หรือ เอซี มิลาน สโมสรฟุตบอลที่ได้รับฉายาจากสื่อไทยว่า “ปีศาจแดง-ดำ” เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพในเมืองมิลาน แคว้นลอมบาร์เดีย ประเทศอิตาลี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1899 และ เป็นหนึ่งใ [...]

The post ประวัติทีม มิลาน รายชื่อนักเตะ อัพเดท ผลงาน รางวัลเกียรติยศ appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
เอซี มิลาน

มิลาน หรือ เอซี มิลาน สโมสรฟุตบอลที่ได้รับฉายาจากสื่อไทยว่า “ปีศาจแดง-ดำ” เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพในเมืองมิลาน แคว้นลอมบาร์เดีย ประเทศอิตาลี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1899 และ เป็นหนึ่งในทีมฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทีมหนึ่งในวงการฟุตบอล แทงบอล KUBET ของยุโรปและของโลก อีกทั้ง ยังเป็นหนึ่งในทีมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอิตาลี เช่นเดียวกับ ยูเวนตุส และอินเตอร์ นอกจากนี้ยังเป็นสมาชิกของกลุ่ม จี-14 ซึ่งเป็นกลุ่มของสโมสรฟุตบอลยักษ์ใหญ่ของทวีปยุโรปอีกด้วย

เอซี มิลาน ใช้สนาม ซานซีโร หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สตาดีโอ จูเซ็ปเป เมอัซซา เป็นสนามที่ใช้ในการเล่นในฐานะเจ้าบ้าน ร่วมกับทีมคู่ปรับร่วมเมืองอย่างอินเตอร์

ประวัติ สโมสรฟุตบอล เอซีมิลาน

ประวัติความเป็นมา

สโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ.1899 โดยการก่อตั้งใหม่ ๆ ของคลับแห่งนี้เน้นไปที่ คริกเกต มากกว่า และเมื่อข่าวได้แพร่กระจายออกไปก็ได้มีผู้ให้การสนับสนุนฟุตบอลมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมี อัลเฟรด เอ็ดเวิร์ดส์ ที่ได้ทำหน้าที่เป็นประธานสโมสรเป็นคนแรก หลังจากที่ได้ไปทำการขึ้นทะเบียนกับสหภาพฟุตบอลอิตาเลียนแล้ว ทีมก็ได้เข้าร่วมชิงชัยในฟุตบอล รวมทั้งได้เริ่มสร้างสนามเพื่อใช้ในการเป็นเจ้าบ้าน ซึ่ง การสร้างสนามนี้ได้ถูกสร้างในบริเวณทรอตเตอร์ ซึ่งปัจจุบัน คือ สถานีรถไฟกลางนั่นเอง

ในวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ.1900 ทางสโมสรได้ทำการแข่งขันเป็นนัดแรก โดยแข่งกับ ทีมเมดิโอลานุม และ มิลาน ได้เอาชนะไปได้ถึง 3 – 0 ซึ่งผู้เล่น 11 คนแรกของสโมสรประกอบไปด้วย ฮู้ด ชิญญากี ตอร์เรตต้า ลีส์ คิลปิน วาเลริโอ ดูบินี เดวีส์ เนวิลล์ อัลลิสัน ฟอร์เมนติ โดยในขณะนั้น เฮอร์เบิร์ต คิลปิน เป็นทั้งหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งสโมสรและเป็นกัปตันทีมฟุตบอล อีกทั้งยังได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของทีมในขณะนั้น แต่ทว่าการแข่งขันอย่างเป็นทางการจริง ๆ มิลานกลับแพ้โตริโน 0-3 เมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1900

ทางสโมสรได้มีการเปลี่ยนชื่อมาตลอด โดยเริ่มจากปี ค.ศ.1919 เปลี่ยนชื่อเป็น “Milan Football Club” จากนั้นในปี ค.ศ. 1936 ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “Milan Associazione Sportiva” ต่อมาในปี ค.ศ. 1938 เปลี่ยนมาเป็น “Associazione Calcio Milano” สุดท้ายเปลี่ยนมาเป็น “Associazione Calcio Milan” ในปี ค.ศ. 1945 ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้

สีเสื้อประจำทีม เอซี มิลาน

สีเสื้อประจำทีม

เอซี มิลาน ใช้สีแดง-ดำ เป็นสีประจำทีม

ฉายาของทีม

ได้รับฉายาจากไทยว่า “ปีศาจแดง-ดำ”

สนามเหย้าของทีม

สนามซานซีโร เป็นสนามเหย้าของสโมสร เอซี มิลาน ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1925 และได้เปิดใช้บริการเมื่อวันที่  19 กันยายน ค.ศ.1926 หรือ พ.ศ. 2469 โดยที่สนามมีขนาด 105m x 68m ความจุทั้งหมด 82,955 ที่นั่ง ในปี ค.ศ.2016 (พ.ศ. 2559 สนาม ซาน ซีโร่ ถูกใช้ให้เป็นสนามนัดชิงชนะเลิศในรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

เกียรติประวัติของทีม เอซี มิลาน

เกียรติประวัติของทีม

ระดับประเทศ

🔱 เซเรียอา ชนะเลิศ : 1901, 1906, 1907, 1950–51, 1954–55, 1956–57, 1958–59, 1961–62, 1967–68, 1978–79, 1987–88, 1991–92, 1992–93, 1993–94, 1995–96, 1998–99, 2003–04, 2010–11

🔱 โกปปาอีตาเลีย ชนะเลิศ : 1966–67, 1971–72, 1972–73, 1976–77, 2002–03

🔱 ซูแปร์โกปปาอีตาเลียนา ชนะเลิศ : 1988, 1992, 1993, 1994, 2004, 2011, 2016

🔱 เซเรียบี ชนะเลิศ : 1980–81, 1982–83

🔱 ระดับทวีปยุโรป

🔱 ยูโรเปียนคัพ/ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ชนะเลิศ : 1962–63, 1968–69, 1988–89, 1989–90, 1993–94, 2002–03, 2006–07

🔱 ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ ชนะเลิศ : 1967–68, 1972–73

🔱 ยูฟ่าซูเปอร์คัพ ชนะเลิศ : 1989, 1990, 1994, 2003, 2007

🔱 ระดับโลก

🔱 อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ ชนะเลิศ : 1969, 1989, 1990

🔱 ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ ชนะเลิศ : 2007

ผู้เล่นชุดปัจจุบัน

เบอร์เสื้อ นักเตะ ตำแหน่ง สัญชาติ อายุ
ผู้รักษาประตู
99 จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตู อิตาลี 21
1 ชีเปรียน ทาทารูซานู ผู้รักษาประตู โรมาเนีย 35
90 อันโตนิโอ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตู อิตาลี 30
กองหลัง
19 ธีโอ เอร์นานเดซ เซ็นเตอร์แบ็ค อิตาลี 23
23 ฟิกาโย โทโมรี เซ็นเตอร์แบ็ค อังกฤษ 23
13 อเลสซิโอ โรมันโญลี่ เซ็นเตอร์แบ็ค อิตาลี 26
20 ปิแอร์ กาลูลู เซ็นเตอร์แบ็ค อิตาลี 20
46 มัตเตโอ กับเบีย เซ็นเตอร์แบ็ค อิตาลี 21
24 ซิมอน เคียร์ เซ็นเตอร์แบ็ค เดนมาร์ก 31
5 ดิโอโก้ ดาโลต์ แบ็คขวา โปรตุเกส 21
2 ดาวิเด้ คาลาเบรีย แบ็คขวา อิตาลี 24
กองกลาง
8 ซานโดร โตนาลี่ มิดฟิลด์ตัวรับ อิตาลี 20
4 อิสมาเอล เบนนาเซอร์ มิดฟิลด์ตัวรับ แอลจีเรีย 23
18 ซัวลิโญ่ เมอิเต้ มิดฟิลด์ตัวกลาง ฝรั่งเศส 26
33 ราเด้ ครูนิช มิดฟิลด์ตัวกลาง บอสเนีย 27
79 ฟร้องค์ เคสซี่ มิดฟิลด์ตัวกลาง โกตดิวัวร์ 24
15 เจนส์ เพตเตอร์ ฮาวก์ ปีกซ้าย นอร์เวย์ 21
12 อันเต้ เรบิช ปีกซ้าย โครเอเชีย 27
21 บราฮิม ดิอาซ มิดฟิลด์ตัวรุก สเปน 21
10 ฮาคาน คัลฮาโนกลู มิดฟิลด์ตัวรุก ตุรกี 27
27 ดาเนียล มัลดินี่ มิดฟิลด์ตัวรุก อิตาลี 19
7 ซามูเอล กาสตีเยโฆ่ ปีกขวา สเปน 26
56 อเล็กซิส ซาเลอมาแกร์ส ปีกขวา เบลเยียม 21
กองหน้า
11 ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าตัวเป้า สวีเดน 39
17 ราฟาเอล เลเอา กองหน้าตัวเป้า โปรตุเกส 21
9 มาริโอ มานด์ซูคิช กองหน้าตัวเป้า โครเอเชีย 34

ผู้สนับสนุนหน้าอกเสื้อ

เอซี มิลาน เริ่มมีสปอนเซอร์ติดหน้าอกเสื้ออย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1981 ซึ่งรายชื่อสปอนเซอร์หน้าอกเสื้อของมิลาน มีดังต่อไปนี้

🔱 ปี 1981 – 1982 Phooh Jeans

🔱 ปี 1982 – 1983 Hitachi

🔱 ปี 1983 – 1984 Olio Cuore

🔱 ปี 1984 Rete 4

🔱 ปี 1984 – 1985 Oscar Mondadori

🔱 ปี 1985 – 1987 Fotorex U-Bix

🔱 ปี 1987 – 1992 Mediolanum

🔱 ปี 1992- 1994 Motta

🔱 ปี 1994 – 2006Opel

🔱 ปี 2006 – 2010 Bwin

🔱 ปี 2010-2020 Fly Emirates

ผู้สนับสนุนชุดแข่งขัน

เอซี มิลาน เริ่มมีผู้สนับสนุนชุดแข่งขันอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1978 โดยรายชื่อดังต่อไปนี้

🔱 ปี 1978 – 1979 Adidas

🔱 ปี 1979 – 1980 Adidas – Linea Milan

🔱 ปี 1980 – 1982 Linea Milan

🔱 ปี 1982 – 1984 NR

🔱 ปี 1984 – 1985 Rolly Go

🔱 ปี 1985 – 1986 Gianni Rivera

🔱 ปี 1986 – 1990 Kappa

🔱 ปี 1990 – 1993 Adidas

🔱 ปี 1993 – 1998 Lotto

🔱 ปี 1998 – 2018 Adidas

🔱 ปี 2018 – 2023 PUMA

ยุคสมัยของสโมสร เอซี มิลาน

ยุคสมัยของสโมสร

📍 ยุคเริ่มก่อตั้งถึงคริสต์ทศวรรษ 1940

ยุคนี้ถือได้ว่าเป็นยุคมืดของมิลาน โดยตลอดระยะเวลาครึ่งศตวรรษ มิลานได้แชมป์อิตาเลียน ฟุตบอล แชมเปียนส์ชิพ หรือกัลโช เซเรีย อา เพียงแค่ 3 สมัยเท่านั้น ในปี 1901, 1906 และ 1907 รองแชมป์ 2 ครั้ง ในปี 1902 และ 1948, รองแชมป์โกปปาอีตาเลีย 1 ครั้ง ในปี 1942 โดยแพ้ให้กับยูเวนตุส นอกจากนั้นแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอันเลย

📍 ยุคคริสต์ทศวรรษ 1950

ยุคนี้เป็นยุคที่ได้แชมป์กัลโช เซเรีย อา ถึง 4 สมัย ในปี 1951, 1955, 1957 และ 1959 รองแชมป์อีก 3 ครั้ง ในปี 1950, 1952 และ 1956 ส่วนในระดับทวีปนั้น มิลานได้เข้าชิงยูโรเปียน คัพ ในปี 1958 แต่แพ้ต่อเรอัลมาดริด ยอดทีมในยุคนั้นไป 2-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ

📍 ยุคคริสต์ทศวรรษ 1960

ถือได้ว่าเป็นยุคที่รุ่งเรืองของมิลานอีกยุคหนึ่งเลยทีเดียว โดยที่มิลานได้แชมป์กัลโช เซเรีย อา 2 สมัย ในปี 1962 และ 1968 รองแชมป์อีก 3 ครั้ง ในปี 1961, 1965 และ 1969, แชมป์โกปปาอีตาเลีย 1 สมัย ในปี 1967 ที่เอาชนะปาโดวา รองแชมป์อีก 1 ครั้ง ในปี 1968 ที่แพ้ต่อโตรีโน, แชมป์ยูโรเปียน คัพ 2 สมัย ในปี 1963 ที่เอาชนะเบนฟิกา ของ”เสือดำแห่งโมซัมบิก” ยูเซบิโอ ไป 2-1 และปี 1969 ที่ถล่มอาแจ็กซ์ ของ”นักเตะเทวดา” โยฮัน ครัฟฟ์ ไปถึง 4-1, แชมป์ยูโรเปียนคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย ในปี 1968 ที่เอาชนะฮัมบวร์ค และได้แชมป์สโมสรโลก 1 สมัย โดยเอาชนะเอสตูเดียนเตส ในปี 1969 รองแชมป์อีก 1 ครั้ง ในปี 1963 ที่พ่ายต่อซานโตส ของ”ไข่มุกดำ” เปเล

📍 คริสต์ทศวรรษ 1970

ยุคนี้ถือได้ว่าเป็นยุคที่ประคองตัวโดยมิลานได้แชมป์กัลโช เซเรีย อา เพียงแค่ 1 สมัย ในปี 1979 รองแชมป์ 3 ครั้งติดต่อกัน ในปี 1971, 1972 และ 1973, แชมป์โกปปาอีตาเลีย 3 สมัย ในปี 1972, 1973 และ 1977 ที่ชนะนาโปลี, ยูเวนตุส และอินเตอร์ ตามลำดับ รองแชมป์อีก 2 ครั้ง ในปี 1971 ที่แพ้ต่อโตรีโน และในปี 1975 ที่แพ้ต่อฟิออเรนตินา, แชมป์ยูโรเปียนคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย ในปี 1973 ที่เอาชนะลีดส์ และรองแชมป์ 1 ครั้ง ในปี 1974 ที่แพ้ต่อมักเดบวร์ก นอกจากนี้ ยังได้รองแชมป์ยูโรเปียน ซูเปอร์ คัพ 1 ครั้ง ในปี 1973 โดยที่นัดแรกเล่นในบ้าน เอาชนะอาแจ็กซ์ได้ 1-0 แต่พอไปเยือนกลับโดนอัดกลับมาถึง 6-0 ชวดแชมป์ไปอย่างเจ็บปวด

คริสต์ทศวรรษ เอซี มิลาน

📍 คริสต์ทศวรรษ 1980

ช่วงนี้ถือได้ว่าเป็นช่วงที่เลวร้ายที่สุดของสโมสร ซึ่งมิลานได้ถูกปรับตกชั้นไปในปี 1980 จากข้อหากับคดีการล้มบอลของประธานสโมสร เฟลิเซ โคลอมโบ และผู้รักษาประตูของทีมอย่างเอ็นริโก อัลแบร์โตซี ทำให้ทีมต้องลงเล่นในศึกกัลโช เซเรีย บี เป็นครั้งแรก ซึ่งถึงแม้ว่าจะคว้าแชมป์เซเรีย บี ได้ในทันที แต่เมื่อกลับคืนสู่เซเรีย อา ได้เพียงฤดูกาลเดียวก็ต้องตกชั้นอีก อย่างไรก็ตามมิลานก็สามารถกลับคืนสู่เซเรีย อา ในฐานะแชมป์เซเรีย บี อีกครั้ง ในปี 1983 แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน ประธานสโมสร จูเซ็ปเป ฟารินา ได้พัวพันกับคดีทางกฎหมาย จนทำให้เขาตัดสินใจหนีไปอยู่ที่แอฟริกาใต้ พร้อมกับเอาเงินของสโมสรไปด้วย

ในช่วงนั้น มิลาน จึงถือได้ว่าอยู่ในช่วงของสภาพที่เกือบล้มละลาย แต่ในปี 1986 ทางสโมสรได้ถูกซิลวีโอ แบร์ลุสโกนีซึ่งเป็นมหาเศรษฐีเข้ามาเทคโอเวอร์กิจการ ก็ได้กลับมาสู่ยุครุ่งเรืองอีกครั้ง โดยที่มิลานได้แชมป์กัลโช เซเรีย อา 1 สมัย ในปี 1988, รองแชมป์โกปปาอีตาเลีย 1 ครั้ง ในปี 1985 ที่แพ้ต่อซามพ์โดเรีย, ได้แชมป์อิตาเลียน ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย ในปี 1988 ที่ชนะซามพ์โดเรีย, แชมป์ยูโรเปียน คัพ 1 สมัย ในปี 1989 ที่ถล่มสเตอัว บูคาเรสต์ 4-0, แชมป์ยูโรเปียน ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย ในปี 1989 ที่เอาชนะบาร์เซโลนา และได้แชมป์สโมสรโลก 1 สมัย ในปี 1989 อีกเช่นกัน โดยเอาชนะแอตเลติโก นาซิอองนาล 1-0 โดยยอดผู้จัดการทีมของมิลานในยุคนี้คือ อาร์ริโก ซาคคี ปรมาจารย์ลูกหนัง ผู้ให้กำเนิดโซนเพรส (เพรสซิง ฟุตบอล)

มิลานได้ประกาศศักดาความยิ่งใหญ่

📍 คริสต์ทศวรรษ 1990

ยุคนี้ถือได้ว่าเป็นยุคทองของสโมสรอย่างแท้จริง ซึ่งมิลานได้ประกาศศักดาความยิ่งใหญ่ไปทั่วโลก สามารถทำแชมป์ได้กัลโช เซเรีย อา ถึง 5 สมัย ซึ่งเป็น 3 สมัยติดต่อกันด้วย ในปี 1992, 1993 และ 1994 ซึ่งช่วงเวลานี้เอง ที่มิลานทำสถิติไร้พ่ายในลีกติดต่อกันถึง 58 นัด จากนั้นก็ยังได้แชมป์อีก 2 สมัย ในปี 1996 และ 1999 รองแชมป์ 2 ครั้งติดต่อกัน ในปี 1990 และ 1991, รองแชมป์โกปปาอีตาเลีย 2 ครั้ง ในปี 1990 ที่แพ้ยูเวนตุส และปี 1998 ที่แพ้ให้กับลาซีโอ, ได้แชมป์อิตาเลียน ซูเปอร์ คัพ 3 สมัยติดต่อกัน ในปี 1992, 1993 และ 1994 ที่ชนะปาร์มา, โตรีโน และซามพ์โดเรีย ตามลำดับ รองแชมป์อีก 2 ครั้ง ในปี 1996 ที่พ่ายให้กับฟิออเรนตีนา และปี 1999 ที่พ่ายต่อปาร์มา

ส่วนในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก มิลานได้แชมป์ 3 สมัย จากการเข้าชิง 5 ครั้ง ในรอบ 7 ปี โดยนอกจากปี 1989 แล้ว ในปี 1990 เอาชนะเบนฟิกาได้ 1-0 และปี 1994 ที่ถล่มบาร์เซโลนา ซึ่งถือเป็นดรีมทีมในช่วงนั้นไปเละเทะถึง 4-0 รองแชมป์อีก 2 ครั้ง ในปี 1993 ที่พ่ายต่อมาร์กเซย และปี 1995 ที่พ่ายต่ออาแจ็กซ์, แชมป์ยูโรเปียน ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย ในปี 1990 ที่ชนะซามพ์โดเรีย และปี 1994 ที่ชนะอาร์เซนอล รองแชมป์ 1 ครั้ง ในปี 1993 ที่พ่ายปาร์มา นอกจากนี้ ยังได้แชมป์สโมสรโลกอีก 1 สมัย ในปี 1990 ที่เอาชนะโอลิมเปีย 3-0 รองแชมป์อีก 2 ครั้ง ในปี 1993 ที่แพ้ต่อเซา เปาโล และปี 1994 ที่แพ้ต่อเบเลซ ซาร์สฟิลด์

ยุคมิลเลนเนียมถึงปัจจุบัน

ยุคมิลเลนเนียมถึงปัจจุบัน

ยุคนี้ถือได้ว่าเป็นยุคที่ฟื้นฟูหลังจากที่ได้ตกต่ำไปในระยะหนึ่ง

📍 ฤดูกาล 1999 – 2000

มิลานได้อันดับที่ 3 ในศึกกัลป์โซเซเรียอา ในโกปปาอิตาเลีย ซึ่งตกรอบในรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยทีมได้พ่ายให้กับอินเตอร์ ส่วนในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้ตกรอบแบ่งกลุ่มรอบแรก

📍 ฤดูกาล 2000 – 2001

ฤดูกาลนี้ ได้อันดับที่ 6 ในกัลโช เซเรีย อา ในโกปปาอีตาเลีย ตกรอบรองชนะเลิศ โดยพ่ายให้กับฟิออเรนตีนา ส่วนในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ตกรอบแบ่งกลุ่มรอบที่สอง

📍 ฤดูกาล 2001 – 2002

ในฤดูกาลนี้ ทางสโมสรได้ทำการแต่งตั้งคาร์โล อันเชลอตติ ขึ้นเป็นผู้จัดการทีม และในฤดูกาลนี้ มิลานได้อันดับที่ 4 ในกัลโช เซเรีย อา ในโกปปาอีตาเลีย พ่ายให้กับยูเวนตุส ตกรอบรองชนะเลิศ ส่วนในยูฟ่า คัพ ก็ตกรอบรองชนะเลิศเช่นกัน โดยพ่ายให้กับดอร์ทมุนท์

📍 ฤดูกาล 2002 – 2003

ในฤดูกาลนี้ ได้อันดับที่ 3 ในกัลโช เซเรีย อา แต่ได้ดับเบิลแชมป์ คือ แชมป์โกปปาอีตาเลีย สมัยที่ 5 โดยเอาชนะโรมาได้ ส่วนในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เริ่มแข่งขันตั้งแต่รอบคัดเลือก รอบที่สาม และผ่านสโลวาน ริเบอเรช ไปได้อย่างหวุดหวิด ด้วยกฎการยิงประตูในฐานะทีมเยือน จากนั้นก็ผ่านได้ทั้งบาเยิร์น, ล็องส์, กอรุนญา, เรอัลมาดริด, ดอร์ทมุนท์, โลโกโมทีฟ มอสโก, อาแจ็กซ์ และอินเตอร์ ก่อนที่จะมาดวลจุดโทษเอาชนะยูเวนตุสได้ในนัดชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์สมัยที่ 6 มาครองได้สำเร็จ

📍 ฤดูกาล 2003 – 2004

ฤดูกาลนี้ เริ่มต้นด้วยการพ่ายให้กับยูเวนตุสด้วยการดวลจุดโทษ และโบคาในอิตาเลียนซูเปอร์คัพและสโมสรโลกตามลำดับ แต่ก็ยังสามารถได้แชมป์ยูโรเปียน ซูเปอร์ คัพ โดยเอาชนะปอร์โต คว้าแชมป์มาครองเป็นสมัยที่ 4 แถมยังคว้าแชมป์กัลโช เซเรีย อา มาครองได้เป็นสมัยที่ 17 ส่วนในโกปปาอีตาเลีย แพ้ลาซีโอ ตกรอบรองชนะเลิศ และในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายแบบช็อกโลก ในนัดที่ 2 ที่พ่ายต่อกอรุนญา

📍 ฤดูกาล 2004 – 2005

ยุคนี้ได้คว้าแชมป์อิตาเลียน ซูเปอร์ คัพ สมัยที่ 5 โดยได้เอาชนะลาซีโอ ในโกปปาอิตาเลียได้ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยพ่ายให้กับอูดิเนเซ และได้ดับเบิ้ลรองแชมป์ในศึกกัลโช เซเรียอา และได้เกิดเหตุการที่ทำให้แฟนบอลช็อคอีกครั้งในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ที่อตาเติร์ก เมื่อทีมได้ทำ 3 ประตูนำอยู่ในครึ่งแรก แต่ไม่สามารถที่จะทำให้มิลานคว้าแชมป์มาครองได้ โดยถูกลิเวอร์พูลยิง 3 ประตูตีเสมอ ด้วยเวลาเพียง 6 นาที และไปดวลจุดโทษเอาชนะมิลานได้ในที่สุด ทำให้มิลานต้องพลาดแชมป์ไปอย่างเจ็บปวด

📍 ฤดูกาล 2005 – 2006

ฤดูกาลนี้ ได้กลับมาเป็นรองแชมป์กัลโช เซเรีย อา อีกครั้ง (ตอนหลังโดนตัดแต้ม จากกรณีล็อกสเปคผู้ตัดสิน จนต้องหล่นลงมาอยู่อันดับที่ 3) ในโกปปาอีตาเลีย ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยพ่ายให้กับปาแลร์โม ส่วนในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก พ่ายต่อบาร์เซโลนา ในรอบรองชนะเลิศ

📍 ฤดูกาล 2006 – 2007

ฤดูกาลนี้ ในศึกกัลโช เซีเรีย อา เริ่มต้นด้วยการถูกตัดคะแนนไป 8 คะแนน ซึ่งเป็นผลพวงมาจากกรณีที่ล็อกสเปคผู้ตัดสิน แต่ก็ยังไต่ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 ได้ ขณะที่ในโกปปาอีตาเลีย แพ้โรมา ตกรอบรองชนะเลิศ ส่วนในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก มิลาน ต้องมาเริ่มต้นในรอบคัดเลือก รอบที่สาม และเอาชนะ เคอร์เวนา ซเวซดา ได้ ทำให้ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่ม จากนั้นก็ผ่านได้ทั้งเออีเค เอเธนส์, อันเดอร์เลชท์, ลีลล์, เซลติค, บาเยิร์น และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ก่อนที่จะมาล้างแค้น เอาชนะลิเวอร์พูลได้ 2-1 ในนัดชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์สมัยที่ 7 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยฝีเท้าอันเอกอุของกาก้าและพรรคพวก จากนั้นก็สามารถเอาชนะเซบีญา คว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ สมัยที่ 5 มาครอง และปิดท้ายปี 2007 ด้วยการคว้าแชมป์สโมสรโลก ได้เป็นสมัยที่ 4 โดยแก้แค้นโบคาได้สำเร็จในนัดชิงชนะเลิศ พร้อมกับส่งให้กาก้า คว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี 2007 ในทุกสถาบัน

กัลโช เซเรีย อา มิลาน

📍 ฤดูกาล 2007 – 2008

ฤดูกาลนี้ ในศึกกัลโช เซเรีย อา มิลานได้แค่อันดับที่ 5 ส่วนใน โกปปาอีตาเลีย และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายทั้งสองรายการ โดยแพ้ให้กับ คาตาเนีย และ อาร์เซนอล ตามลำดับ

📍 ฤดูกาล 2008 – 2009

ฤดูกาลนี้ ในศึกกัลโช เซเรีย อา มิลานได้อันดับที่ 3 ส่วนใน โกปปาอีตาเลีย ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยพ่ายให้กับ ลาซีโอ และในยูฟ่า คัพ ได้ตกรอบ 32 ทีมสุดท้าย ด้วยน้ำมือของ เบรเมน

📍 ฤดูกาล 2009 – 2010

ฤดูกาลนี้ ในกัลโช เซเรีย อา มิลาน ได้อันดับที่ 3 อีกครั้ง ส่วนใน โคปป้า    อิตาเลีย ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยพ่ายให้กับ อูดิเนเซ และในยูฟ่า          แชมเปียนส์ลีก ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยถูก แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ไล่ถลุงเละเทะ

📍 ฤดูกาล 2010 – 2011

ฤดูกาลนี้ ในศึกกัลโช เซเรีย อา มิลานคว้าแชมป์สมัยที่ 18 มาครองได้สำเร็จ ส่วนใน โกปปาอีตาเลีย ตกรอบรองชนะเลิศ โดยพ่ายต่อ ปาแลร์โม่ และในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยแพ้ต่อ สเปอร์ส

📍 ฤดูกาล 2011-12

ฤดูกาลนี้ เริ่มต้นด้วยการเอาชนะอินเตอร์ ได้แชมป์ซูเปอร์โคปป้า    อิตาเลียน่า มาครองได้เป็นสมัยที่ 6 ในกัลโช เซเรีย อา มิลาน ได้รองแชมป์ ส่วนใน โกปปาอีตาเลีย ตกรอบรองชนะเลิศ โดยพ่ายต่อ ยูเวนตุส และในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยแพ้ต่อ บาร์เซโลนา เข้าเดิมพันที่ KUBET KUBET777 ไม่มีผิดหวัง



The post ประวัติทีม มิลาน รายชื่อนักเตะ อัพเดท ผลงาน รางวัลเกียรติยศ appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
16914
ประวัติทีม เซาเปาโล เปิดตำนานจอมโหด ผลงานที่สร้างชื่อเสียง https://kubethda.com/sao-paulo/ Thu, 25 Feb 2021 08:15:46 +0000 https://kubethda.com/?p=16913 สโมสรฟุตบอล เซาเปาโล ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อ 25 มกราคม 1930 เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพในประเทศบราซิล มีที่ตั้งอยู่ใน นครเซาเปาลู และลงแข่งขันในแซรียีอาและกังเปโอนาตูเปาลิสตา (ลีกฟุตบอลประ [...]

The post ประวัติทีม เซาเปาโล เปิดตำนานจอมโหด ผลงานที่สร้างชื่อเสียง appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
เซาเปาโล

สโมสรฟุตบอล เซาเปาโล ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อ 25 มกราคม 1930 เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพในประเทศบราซิล มีที่ตั้งอยู่ใน นครเซาเปาลู และลงแข่งขันในแซรียีอาและกังเปโอนาตูเปาลิสตา (ลีกฟุตบอลประจำรัฐเซาเปาลู)  และคือหนึ่งในท็อปทีมของ บราซิล เป็นหนึ่งในสโมสร KUBET ฝาก ถอน true wallet ใหญ่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว นักเตะเก่งๆ มาจากสโมสรนี้นับไม่ถ้วน

ประวัติความเป็นมา

สโมสรฟุตบอล เซาเปาโล ประเทศบราซิล ได้ถูกก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1930 โดยต้นสังกัดเป็นส่วนหนึ่งของลีก เซเรียอา – บราซิล โดยสนามเหย้าที่ใช้จัดการแข่งขันของสโมสร นั่นก็คือ เอสตาจีอูดูโมรุงบี ตั้งอยู่ที่เมือง São Paulo โดยพื้นสนามเป็นแบบ Grass และที่อยู่ของสนามอยู่ที่ Praca Roberto Gomes Pedrosa 1, Morumbi เป็นทีมฟุตบอลที่อยู่ในลีก แซรียีอา เป็นลีกฟุตบอลสูงสุดของฟุตบอลในประเทศบราซิล  ซึ่งก่อตั้งใน พ.ศ.2502

ประวัติทีม เซาเปาโล

สนามเหย้าของทีม

สนามกีฬาซีเซรู ปงเปว จี โตเลดู หรือที่รู้จักกันในนาม โมรุงบี เป็นสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ในเขตโมรุงบี ในเซาเปาลู ประเทศบราซิล ซึ่งเป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลเซาเปาโล สนามแห่งนี้ตั้งชื่อ ตามซีเซรู ปงเปว จี โตเลดู อดีตประธานสโมสรเซาเปาลู, โมรุงบี เป็นสนามของเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในบราซิล และใหญ่เป็นลำดับที่สามในบราซิลรองจาก มาแน การิงชา และ มารากานัง เดิมทีสนามแห่งนี้มีความจุ 120,000 ที่นั่ง แต่ปัจจุบันมีความจุที่ 67,052 ที่นั่ง พื้นสนามมีความยาว 105 เมตร และกว้าง 68 เมตร (กว้าง 115 หลา ยาว 74 หลา)

ทีมสโมสรเซาเปาโล

เปิดตำนานจอมโหดในบราซิล

หากจะพูดถึงทีมสโมสร เซาเปาโล ต้องบอกเลยว่าเป็นหนึ่งในท๊อปทีมของบราซิลที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของนักเตะเก่ง ๆ มาจากสโมสรนี้นับไม่ถ้วน คนไทยส่วนใหญ่มักจะคุ้นหูกับชื่อทีมนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งทีมมหาอำนาจของลีกแซมบ้าที่พวกเขาได้ทำการแจ้งเกิดนักเตะระดับท็อปของโลกมามากมายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ในการที่จะหานักเตะตัวหลักจากต่างชาติมาเข้าสโมสรในลีกของบราซิลนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และจะยากขึ้นไปอีกแค่ไหนที่จะมีนักเตะชาวต่างชาติที่มีความเก่งกาจจนถึงขั้นเป็นหนึ่งในนักเตะตำนานของสโมสร เซาเปาโล คือ หนึ่งในท็อปทีมของบราซิล ซึ่งเป็นหนึ่งในสโมสรที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของนักเตะเก่ง ๆ ที่มาจากสโมสรนี้

ไร อดีตเพลย์เมกเกอร์ชุดแชมป์โลก 94 กาเรก้า หัวหอกที่ได้มาสร้างชื่อร่วมกับมาราโดน่าที่ นาโปลี แล้วยังมี โรเจริโอ แชร์นี่ นายทวารจอมสังหารลูกนิ่ง นักเตะเหล่านี้ติดอยู่ในท็อปชาร์ตดาวยิงของสโมสร แน่นอนว่าผู้เล่นตำนานของสโมสร เป็นแข้งบราซิลเลี่ยน แต่ยังมีนักเตะอีกรายที่ติดในท็อปชาร์ตดาวซัลโว และยังเป็นคนต่างชาติด้วยมีชื่อว่า เปโดร โรช่า

อุรุกวัย อีกหนึ่งในทีมยักษ์ใหญ่ของละติน พวกเขาได้รับฉายาว่า “ทีมจอมโหด” ด้วยสไตล์การเล่นที่มีความดุดัน เล่นหนัก เน้นพละกำลัง มีลูกตุกติก แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ยังมักผลิตดาวเตะชั้นยอดออกมาประดับวงการ เอ็นโซ่ ฟรานเชสโคลี่ เป็นฮีโร่ของ ซีเนดีน ซีดาน จนเขาตั้งชื่อลูกชายว่า เอ็นโซ่

“เอล ปรินซิเป้” เทพบุตรแห่งทีมชาติอุรุกวัยที่เฉิดฉายในยุค 80s-90s แต่ก่อนหน้าเขา มีนักเตะรุ่นพี่ที่เก่งไม่แพ้กัน เขาคนนั้นคือ เปโดร โรช่า ซึ่งได้รับรับฉายาว่าเป็นจอมทัพเชิงสูง มีการจ่ายบอลที่แม่น และยังเก่งในด้านลูกนิ่ง เขาเกิดที่ ซาลโต้ เขาเล่นบอลในบ้านเกิดกับ เปนญาร่อล ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น กระทั่งอายุ 28 แล้วถึงได้ออกมาหากินนอกบ้าน แถมลีกที่ว่ายังเป็นบราซิลอีกต่างหาก สโมสรเซาเปาโล ได้ดึงเข้ามาร่วมทีมในปี 1970 และยังช่วยทีมให้คว้าแชมป์รัฐ กัมเปโอนาโต เปาลิสต้า ได้ทันทีในปีแรก เขาเล่นให้กับสโมสร จนอายุ 35 ปี

ซึ่งในปีสุดท้ายของเขาคือปี ค.ศ. 1977 เขาได้ช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ ซีรี่ เอ ซึ่งเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศได้เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ด้วย (เซา เปาโล ได้แชมป์อีก 5 สมัยหลังจากนั้น) โดยตลอด 7 ปีที่เขาได้อยู่กับสโมสร ซึ่งมีการแข่งขัน 393 นัด เขาได้ทำประตูไปทั้งสิ้น 119 ประตู ก่อนจะย้ายออกไปเล่นให้ พัลไมรัส, กูริติบา และไปเล่นในเม็กซิโก ช่วงบั้นปลายอาชีพ

เปโดร โรช่า นักเตะคนเดียวของอุรุกวัย ที่ติดทีมไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายถึง 4 สมัย ตั้งแต่ปี 1962, 1966, 1970 และ 1974 โดยมีสถิติทำประตูในทีมชาติเท่ากับ เอ็นโซ่ ฟรานเชสโคลี่ ที่จำนวน 17 ประตู แต่เขาลงเล่นน้อยกว่าถึง 21 นัด ขณะที่ ฟรานเชสโคลี ลงเล่นไป 73 นัด โรช่า รับใช้ชาติไปเพียง 52 นัดเท่านั้น

และในปี 1980 เขาได้แขวนสตั๊ดด้วยวัยเพียง 38 ปีเท่านั้น หลังจากนั้นเขาได้ผันตัวมาคุมทีมให้กับหลายสโมสรในบราซิล และยังเคยมาคุมสปอร์ติ้ง ลิสบอน และวิตอเรีย กิมาไรช์ สองทีมดังในโปรตุเกสด้วย และในปี 1997 เขาได้เข้ามาเป็นกุนซือให้กับ เกียวโต เพอร์เพิ่ล ซังกะ ที่ญี่ปุ่นด้วยซ้ำ และเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่ เปโดร โรช่า ป่วยด้วยโรคเซลล์สมองส่วนกลางฝ่อ ร่างกายบางส่วนของเขาไม่ทำงาน ต้องนั่งวีลแชร์ และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2013 ก่อนวันครบรอบ 71 ปีของตัวเองแค่วันเดียวเท่านั้น

เว็บเดิมพัน แทงบอล KUBET เจ้าเก่าเจ้าเดิม ที่ไม่ทำให้นักพนันผิดหวัง

ผลงานสร้างชื่อ

ผลงานสร้างชื่อ สโมสรเซาเปาโล

✅ Doneแชมป์เปียนฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก เป็นการแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมสโมสรของแต่ละสมาพันธ์ฟุตบอลจาก 6 ทวีปทั่วโลก และทีมเซาเปาโลเป็นแชมป์เพียงสมัยเดียวในปี 2005

✅ แชมป์เปียนฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรปและอเมริกาใต้ เป็นรายการ การแข่งขันฟุตบอลที่จัดขึ้นโดยสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) และสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ (คอนเมบอล) โดยจะเป็นการพบกันระหว่างทีมแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกจากทวีปยุโรป กับทีมแชมป์โกปาลิเบร์ตาโดเรสจากทวีปอเมริกาใต้ โดยทีม เซาเปาโล เป็นแชมป์ 2 สมัย ในปี 1992-1993

✅ แชมป์เปียนโกปาลิเบร์ตาโดเรส เป็นการแข่งขันฟุตบอลระหว่างสโมสรต่าง ๆ ในทวีปอเมริกาใต้ จัดขึ้นทุกปีโดยสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ โดยทีมเซาเปาโล เป็นแชมป์ 3 สมัย ในปี 1992, 1993, 2005

The post ประวัติทีม เซาเปาโล เปิดตำนานจอมโหด ผลงานที่สร้างชื่อเสียง appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
16913
ประวัติทีม นอริช ซิตี้ ผู้เล่นชุดปัจจุบัน ผลงานและรางวัลที่ได้รับ https://kubethda.com/norwich-city/ Thu, 25 Feb 2021 08:09:59 +0000 https://kubethda.com/?p=16912 นอริช ซิตี้ สโมสรฟุตบอลอาชีพในประเทศอังกฤษ ซึ่ง ตั้งอยู่ในเมือง นอริช นอร์ฟอล์ก ถึงก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1902 และได้เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดในปี ค.ศ.1972 หลังจากนั้นได้เล่นในลีกสูงส [...]

The post ประวัติทีม นอริช ซิตี้ ผู้เล่นชุดปัจจุบัน ผลงานและรางวัลที่ได้รับ appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
นอริช ซิตี้

นอริช ซิตี้ สโมสรฟุตบอลอาชีพในประเทศอังกฤษ ซึ่ง ตั้งอยู่ในเมือง นอริช นอร์ฟอล์ก ถึงก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1902 และได้เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดในปี ค.ศ.1972 หลังจากนั้นได้เล่นในลีกสูงสุดถึง 23 ฤดูกาล โดยช่วงที่ยาวนานที่สุดถึง 9 ฤดูกาล นอริช ชนะเลิศถ้วยลีก คัพถึง 2 ครั้ง ในปี 1962 และ 1985 เอฟ เอ ยูธคัพ อีกสองสมัย ในปี 1983 และ 2013 สโมสรเป็นสมาชิกแรกที่ทำการก่อตั้งฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 1992-93 และจบอันดับ 3 และได้เล่นในลีกสูงสุด 3 ฤดูกาลติดต่อกัน เข้าถึงรอบ 3 ฟุตบอลยูฟ่า คัพ นอริชกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีก 1 KUBET อีกครั้งในปี 2011 หลังจากหล่นชั้นไป 6 ปี

ประวัติความเป็นมา

นอริช ซิตี้ ผู้ได้รับฉายาในไทยว่า “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” โดยมีประธานสโมสรคือ เดเลีย สมิธ และมีผู้จัดการทีมชื่อ ดานีเอิล ฟาร์เคอ เล่นอยู่ในลีก อีเอฟแอลแชมเปียนชิป สโมสรได้ถูกก่อนตั้งโดยการประชุมกันที่ คริเตเรียน คาเฟ่ (Criterion Cafe) นอริช เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 1902 และจากนั้นก็มีการประชุมย่อยอีกครั้งในวันที่ 2 กรกฎาคม 1902 โดยกลุ่มเพื่อนนำโดยอดีต 3 ผู้เล่นของ นอริช ซีอีวายเอ็มเอส  โรเบิร์ต เว็บสเตอร์ , โจเซฟ คาวเปอร์ และ แบรด สเคลลี่

และได้เล่นอย่างเป็นทางการครั้งแรกโดยพบกับ ฮาร์วิชแอนด์พาร์คสตัน ที่สนาม นิวมาร์เก็ต โรด เมื่อวันที่ 6 กันยายน 1902 และในปี 1905 ตามมติของคณะกรรมการเอฟเอ สโมสรก็ได้เปลี่ยนจากสโมสรสมัครเล่นกลายเป็นองค์กรอาชีพ ไม่กี่ปีหลังจากนั้น สโมสรได้ถูกเลือกให้ลงเล่นใน เซาท์เทิร์น ลีก (Southern League) ประกอบกับผู้ชมที่เข้ามาชมเป็นจำนวนมากทำให้พวกเขาต้องย้ายจากสนาม นิวมาร์เก็ต โรด ไปสู่ สนามเดอะเนสท์ ในปี 1908 ซึ่งเคยเป็นเหมืองหินมาก่อน

ในส่วนของชุดที่ใส่ลงแข่งขันนั้นจะเป็นแถบสี เหลือง และ เขียว แทน และในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นช่วงที่การแข่งขันฟุตบอลถูกระงับและทางสโมสรได้ประสบกับภาวะหนี้สินจึงทำให้ทางสโมสรต้องเข้าสู่กระบวนการชำระหนี้โดยสมัครใจเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 1917

และเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 1919 ทางสโมสรก็ได้ก่อตั้งอย่างเป็นทางการขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง โดยมีบุคคลสำคัญที่ชื่อ ชาร์ลส์ เฟรเดริก วัตลิ่ง ผู้ซึ่งต่อมาจะได้เป็นนายกเทศมนตรีเมืองนอริชและเป็นบิดาของประธานสโมสรในอนาคตอย่าง เจฟฟรี่ วัตลิ่ง ในปี 1920 สมาพันธ์ฟุตบอลลีกได้จัดการแข่งขันฟุตบอลลีกดิวิชั่น 3 ขึ้นมา นอริชจึงได้เข้าร่วมการแข่งขันในฤดูกาลนั้น ผลงาน ทีม นอริช ซิตี้

ประวัติทีม นอริช ซิตี้

สนามเหย้าของทีม

ในช่วงปี 1902 – 1908 ทางสโมสร นอริช ซิตี้ ได้ใช้ สนามนิวมาร์เก็ตโรด โดยมีผู้เข้าชม 10,366 คน ในการแข่งขันเอฟเอ คัพ รอบสอง ปี 1908 กับทีมเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ภายหลังมีข้อพิพาทเกี่ยวกับเงื่อนไขในการเช่าสนาม นิวมาร์เก็ต โรด สโมสรจึงได้ย้ายไปยังรังเหย้าแห่งใหม่ในปี 1908 ที่บริเวณ เหมืองหินชอล์ก เก่าที่ โรซารี่ โรด ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เดอะเนสท์ (รังนก) ในช่วงทศวรรษที่ 1930 สนามเริ่มมีความจุไม่เพียงพอและในปี 1935 สโมสรจึงได้ย้ายมายัง แคร์โรว์โรด ซึ่งเป็นรังเหย้าในปัจจุบัน

ในการก่อสร้างสนามในช่วงแรกนั้นได้ถูกบรรยายว่าเป็นการก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองนับตั้งแต่สร้างปราสาทนอริชเลยทีเดียว เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สร้างเพียง 82 วัน และถูกเรียกโดยสโมสรว่าเป็น 8 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ภาพถ่ายทางอากาศเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 1935 เปิดเผยให้เห็นถึงอัฒจันทร์ 3 ด้านที่ไม่มีหลังคา และอีกด้านเป็นอัฒจันทร์มีหลังคา และมีโฆษณาของ โคลแมน มัสตาร์ด พ่นอยู่บนหลังคา ซึ่งมองเห็นได้ทางอากาศเท่านั้น สปอตไลท์ที่ถูกติดตั้งในสนามเมื่อปี 1956 ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 9,000 ปอนด์ เกือบทำให้สโมสรต้องล้มละลาย แต่ความสำเร็จในเอฟเอ คัพ เมื่อปี 1959 ช่วยให้สโมสรมีสถานะทางการเงินที่ดีขึ้นและยังสามารถนำไปสร้างหลังคาบนสแตนด์ฝั่งใต้ได้อีกด้วย สแตนด์ฝั่งใต้นี้ได้สร้างใหม่เมื่อปี 2003 มีขนาดความจุ 7,000 ที่นั่ง และตั้งชื่อใหม่ว่า จาร์โรลด์ สแตนด์

ในปี 1963 ได้มีการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอคัพรอบ 6 กับทีมเลสเตอร์วิตี้ จึงทำให้มีผู้เข้าชมสูงถึง 43,984 คน ซึ่งถือว่าสูงมากที่สุดในขณะนั้น แต่ก็ได้เกิดเหตุหายนะที่ ไอบรอกซ์ สเตเดี้ยม Ibrox stadium disaster เมื่อปี 1971 สโมสรจึงต้องมาคำนึงถึงความปลอดภัยทำให้จำนวนความจุของสนาม โดยลดลงเหลือประมาณ 20,000 ที่นั่งเท่านั้นเอง อัฒจันทร์สองชั้นได้ถูกสร้างขึ้นที่ฝั่งริเวอร์เอนด์และในไม่ช้าก็ได้ติดตั้งที่นั่งลงไป ในปี 1979 สนามมีความจุ 28,392 มีที่นั่ง 12,675 ที่

และในปี 1984 ได้เกิดเหตุไฟไหม้จึงทำให้อัฒจันทร์ฝั่งหนึ่งถูกทำลายนำไปสู่การรื้อถอนอย่างสมบูรณ์และถูกแทนที่โดย ซิตี้สแตนต์ ในปี 1987 ซึ่งประธานสโมสร โรเบิร์ต เชส ได้ออกมาบรรยายว่า “หากมาชมการแข่งขันฟุตบอลที่ฝั่งซิตีสแตนด์จะให้ความรู้สึกเหมือนมาดูภาพยนตร์ แตกต่างกันเพียงแค่เวทีจะปกคลุมไปด้วยหญ้าแค่นั้นเอง” หลังจากเกิดโศกนาฏกรรมที่ ฮิลส์โบโร่ ในปี 1989 และผลที่ตามมาในรายงานของ เทย์เลอร์ (Taylor Report) ในปี 1990 สนามถูกปรับปรุงให้เป็นแบบติดตั้งเก้าอี้หมดทุกพื้นที่ ปัจจุบัน สนามแคร์โรว์โรด KUBET ฝาก ถอน true wallet เป็นที่นั่งทั้งหมดมีความจุ 27,000 ที่นั่ง แนะนำเว็บแทงบอล KUBET นิยมอันดับ 1

ผลงาน ทีม นอริช ซิตี้

ผลงานสร้างชื่อ

💥 ลีก

💥 พรีเมียร์ลีก ได้อันดับ 3 ในปี 1992 – 1993

💥 ลีกดิวิชั่น 2 หรือ แชมป์เปียนชิป ได้แชมป์ ในปี 1971 – 1972, 1985 – 1986, 2003 – 2004, 2018-2019 ได้รองแชมป์ในปี 2010 – 2011

💥 ลีกดิวิชั่น 3 หรือ ลีกวัน ได้แชมป์ในปี 1933 – 1934, 2009-2010 ได้รองแชมป์ 1959 – 1960

💥 บอลถ้วย

💥 เอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศ ในปี 1959, 1989, 1992

💥 ฟุตบอลลีกคัพ

💥 แชมป์ในปี 1962, 1985

💥 รองแชมป์ในปี 1973, 1975

ผู้เล่นชุดปัจจุบัน

เบอร์เสื้อ นักเตะ ตำแหน่ง สัญชาติ อายุ
ผู้รักษาประตู
1 ทิม ครูล ผู้รักษาประตู เนเธอร์แลนด์ 32
12 ออร์ยัน นีลันด์ ผู้รักษาประตู นอร์เวย์ 30
38 Daniel Barden ผู้รักษาประตู เวลส์ 20
38 แอสตัน อ็อกซ์โบโร่ ผู้รักษาประตู อังกฤษ 22
33 ไมเคิล แม็คโกเวิร์น ผู้รักษาประตู ไอร์แลนด์เหนือ 36
กองหลัง
5 Dimitrios Giannoulis เซ็นเตอร์แบ็ค กรีซ 25
16 ซาบี ควินตีย่า เซ็นเตอร์แบ็ค สเปน 24
19 ยาค็อบ ลุนกี้ ซอเรนเซ่น เซ็นเตอร์แบ็ค เดนมาร์ก 22
6 คริสตอฟ ซิมเมอร์มันน์ เซ็นเตอร์แบ็ค เยอรมนี 28
34 เบน กิบสัน เซ็นเตอร์แบ็ค อังกฤษ 28
5 แกรนท์ แฮนลี่ย์ เซ็นเตอร์แบ็ค สก็อตแลนด์ 29
26 บาลี มุมบา แบ็คขวา อังกฤษ 19
2 แม็กซ์ อารอนส์ แบ็คขวา อังกฤษ 21
3 แซม ไบรัม แบ็คขวา อังกฤษ 27
กองกลาง
20 โอลิเวอร์ สคิปป์ มิดฟิลด์ตัวรับ อังกฤษ 20
เมลแว็ง ซิตติ มิดฟิลด์ตัวรับ ฝรั่งเศส 21
27 อเล็กซานเดอร์ เท็ตเตย์ มิดฟิลด์ตัวรับ นอร์เวย์ 34
14 ทอดด์ แคนท์เวลล์ มิดฟิลด์ด้านซ้าย อังกฤษ 22
8 มาริโอ วรานซิช มิดฟิลด์ตัวกลาง บอสเนียฯ 31
โมริตซ์ ไลท์เนอร์ มิดฟิลด์ตัวกลาง เยอรมนี 28
23 เคนนี่ แม็คลีน มิดฟิลด์ตัวกลาง สก็อตแลนด์ 29
7 ลูคัส รุปป์ มิดฟิลด์ตัวกลาง เยอรมนี 30
24 จอช มาร์ติน ปีกซ้าย อังกฤษ 19
11 เพอร์เซมีสลาฟ ปลาเชต้า ปีกซ้าย โปแลนด์ 22
25 โอเนล เอร์นานเดซ ปีกซ้าย คิวบา 28
10 คีแรน โดเวลล์ มิดฟิลด์ตัวรุก อังกฤษ 23
18 มาร์โก สตีเพอร์มันน์ มิดฟิลด์ตัวรุก เยอรมนี 30
17 เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย ปีกขวา อาร์เจนตินา 24
กองหน้า
เซบาสเตียน โซโต กองหน้าตัวเป่า สหรัฐอเมริกา 20
22 ทีมู พุกกี้ กองหน้าตัวเป่า ฟินแลนด์ 30
โยซิป เดอร์มิช กองหน้าตัวเป่า สวิสเซอร์แลนด์ 28
35 อดัม ไอดาห์ กองหน้าตัวเป่า ไอร์แลนด์ 20
9 จอร์แดน ฮูกิลล์ กองหน้าตัวเป่า อังกฤษ 28

 

The post ประวัติทีม นอริช ซิตี้ ผู้เล่นชุดปัจจุบัน ผลงานและรางวัลที่ได้รับ appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
16912
ประวัติทีม เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ข้อมูลเกี่ยวกับสโมสร นักเตะ ข่าวสารอัพเดท https://kubethda.com/west-ham-united/ Wed, 24 Feb 2021 07:31:34 +0000 https://kubethda.com/?p=16898 ประวัติของ สโมสร เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด จัดตั้งทีมฟุตบอลขึ้นมาอย่างเป็นทางการในปี 1895 และถูกคัดเลือกให้เล่นอยู่ในดิวิชั่น 2 ตั้งแต่ปี 1919 จากประวัติความเป็นมาจะเห็ [...]

The post ประวัติทีม เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ข้อมูลเกี่ยวกับสโมสร นักเตะ ข่าวสารอัพเดท appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด

ประวัติของ สโมสร เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด

เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด จัดตั้งทีมฟุตบอลขึ้นมาอย่างเป็นทางการในปี 1895 และถูกคัดเลือกให้เล่นอยู่ในดิวิชั่น 2 ตั้งแต่ปี 1919 จากประวัติความเป็นมาจะเห็นว่า เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ต้องใช้เวลาเล่นอยู่ในระดับดิวิชั่น 2 มีเพียง 6 ครั้งเท่านั้นที่ขึ้นมาเล่นอยู่ในดิวิชั่น 1 ในรอบ 37 ปี การแข่งขันในลีก ไม่ประสบผลสำเร็จแต่อย่างใด ให้กับถิ่น อัพคัน ปาร์ค แต่ เวสต์แฮม ก็ตั้งความหวังที่จะสร้างเกียรติยศชื่อเสียงให้กับสโมสรอย่างไม่ย่อท้อ โดยเข้าเข้าร่วมแข่งขันในทุกรายกรที่จัดขึ้น มีข้อที่น่าสังเกตสำหรับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด คือเป็นทีมที่ใช้ผู้จัดการ ยูฟ่าเบท777 น้อยมาก เพียง 8 คน เท่านั้นในประวัติการเข้าแข่งขันในลีก และก็มีเพียง 2 คนเท่านั้น ที่สามารถนำพาทีมข้าสู่ความสำเร็จได้ จาก รอน กรีนวู๊ด และ จอห์น ไลอัลล์ ในช่วงเวลาที่ รอน กรีนวู๊ด เข้ามาทำหน้าที่ กล่าวได้ว่า เวสต์แฮม ยูไนเต็ด รุ่งเรืองสุดขีด โดยในปี1964 ได้ครองแชมป์เอฟ เอ คัพ โดยเอาชนะ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ พร้อมกับการเป็น แชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ ในปีต่อมา

สนามเหย้า ของทีม West Ham United

ทีม เวสต์แฮม เคยได้ใช้สนาม Boleyn Ground (บุลินกราวนด์) ซึ่งในไทยและหลายประเทศ จะคุ้นกับชื่อ Upton Park (อัปตันพาร์ก) มากกว่า มีความจุอยู่ 35,647 คน แต่ว่าตอนนี้ได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว จากการทุบทิ้งและ เปลี่ยนสภาพพื้นที่ ไปเป็น อพาร์ทเม้นท์สุดหรู 842 ห้อง มีสวนให้ความร่มรื่นโดยมีค่าห้องเริ่มต้น 15 ล้านบาทไทย และทางสโมสรเอง จึงเลือกการเช่าสนามใหม่ ด้วยการใช้ สนาม London Stadium หรือว่า สนามกีฬาโอลิมปิก ที่ถูกสร้างมาเพื่อรองรับ โอลิมปิกใน 2012 มีความจุที่ 80,000 ที่นั่ง มีความใหญ่โตอันดับ 3 ของประเทศ และที่นั่งมากกว่าที่สนามเก่า 1 เท่า ทำให้ข่าวออกมาว่า ทีมเช่าล่วงหน้าไป 99 ปี เป็นที่พอใจของแฟนบอล ที่จะมีที่พร้อมเชียร์ทีมรักไปตลอดแบบอลังการ

ตราประจำสโมสร โลโก้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

โลโก้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

🧩 โดยปี 1919 หลังจากสงครามโลกผ่านไป สโมสรได้รับเลือกมาเล่นที่ดิวิชั่น2 เป็นครั้งแรก 1923 ทีม เวสต์แฮม เริ่มมาใช้โลโก้ที่เป็น ค้อน ครั้งแรก ได้ลงเตะในรายการเอฟเอคัพ ที่ สนามเวมบลีย์ เป็นประวัติศาสตร์ และคนเริ่มรู้จักทีมมากขึ้น เพื่อแสดงถึงตัวตนและจุดกำเนิดของทีม ทำให้โลโก้จึงเป็น รูปค้อนคู่วางขวางกัน

🧩 1950 มีการเปลี่ยนกรอบนอกที่เคยเป็นวงกลมออกไป และใช้ รูปค้อนที่ยาวขึ้นกว่าเดิม และลักษณะเปลี่ยนไป

🧩 1952 เพียง 2 ปี ก็เริ่มมาปรับแก้กันอีกรอบ ด้วยการผสานกรอบแบบ 1923 แต่ใช้ รูปทรงค้อน แบบ 1950 แทน

🧩 1958 กลับมาใช้งานคล้ายต้นแบบของปี 1950

🧩 1963 ยังคงโทนและแบบเดิมจากปี 1958 เปลี่ยนแค่กรอบนอกให้เป็นสีฟ้า ด้วยสมัยนั้นยังเน้นการตัดเย็บลงเนื้อผ้า

🧩 1964 เปลี่ยนไปเป็นรูป หอคอยปราสาท ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ในปีนี้สามารถเข้ารอบชิงเอฟเอคัพได้สำเร็จ แต่พลาดท่าแพ้ เพรสตัน ไป แต่หลังจากนั้น 1 ปีพวกเขาก็ลุยเข้าสู่ถ้วยยูโรเปี้ยนคัพได้สำเร็จ เริ่มเปิดทางสู่ความยิ่งใหญ่ให้กับสโมสร

🧩 1965 สโมสรก้าวสู่การเป็นแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพได้สำเร็จ ซึ่งเป็นถ้วยสูงสุดของสโมสรโลกในตอนนี้ เปรียบได้ดังถ้วยฟุตบอลโลกของทีมชาติ จึงปรับ มีการใส่ C.W.C. เข้ามาในล่างปราสาท และถัดมา 1966

🧩 1968 โลโก้ที่มีสไตล์คล้าย ๆของเก่า แต่เปลี่ยนเป็นแบบไม่มีสี ใช้สีร่างเป็น สีแดงเลือดหมู ออกแบบตั้งแต่ 1967 แต่ไม่ได้มีการใช้ลงเสื้อแข่งจริง

🧩 1975 แน่นอนว่าปีนี้สร้างเพื่อรำลึกถึงรายการ Cup Winners ที่ทีมสามารถเข้าไปเล่นในศึก คัพ วินเนอร์ คัพ ได้

🧩 1976 มีการออกแบบคล้าย 1975 มาก เพียงแต่เปลี่ยนกรอบนอก และตัดอักษร Cup Winners ออกไป

🧩 1980 รูปทรงปราสาทหอคอย และรายละเอียดใหม่ ๆ โดนจับลงใส่มากขึ้น โดยใส่สีฟ้าลงไปในหลายส่วน และส่วนปราสาทเป็นสีทอง ทำให้แปลกตา ซึ่งได้ทางนายเรือเอกในการแข่งขัน เป็นคนออกแบบให้นั่นเอง

🧩 1983 ทาง แบรนด์ Adidas ได้เข้ามารับทำเสื้อแข่งขันให้ทีม จึงมีการปรับโลโก้ให้ดูเรียบง่าย ด้วยความคลาสสิกเลยใช้ ค้อนคู่ โล่ง ๆ พร้อมกับตัวย่อ H.U.F.C ต่างจากอันเก่ามาก แต่ว่าได้รับความนิยมจากแฟนบอลอย่างมาก

🧩 1985 กลับมาใช้รูปปราสาทอีกครั้ง พร้อมกับสีเดิมของชุดแข่งคือ สีฟ้า และ แดงเลือดหมู แซมด้วย ดิ้นสีทอง ให้โดดเด่น และฤดูกาล 1986 ผลงานของทีมกลับมาดีขึ้นอย่างมาก

🧩 1987 ใช้งานรูปแบบคล้ายปี 1985 แต่ใช้แค่ 2 สีของสโมสรตัดสีทองออกไป

🧩 1995 สโมสรครบ 100 ปี ทำให้มีการคิดทำตราสัญลักษณ์ใหม่ เพื่อออกมาฉลอง มีการเพิ่มปีการก่อตั้งและครบร้อยปี กลับมาใช้ สีทอง เพิ่มใน หอคอยปราสาท

🧩 1997 ถัดมาอีก 2 ปี ทีมทำการตัดคำว่า C. ออกไป มีการเปลี่ยนอีกเล็กน้อยคือ ทำให้ปราสาทเป็นสีทองอร่ามทั้งหมด

🧩 1999 ทีมเลือกที่จะแก้โลโก้อีกรอบ โดยครั้งนี้จัดให้ สีเลือดหมู เป็นพื้น ปราสาทหอคอยยังคงเป็น สีทอง และเอา สีฟ้า นำมาตัดขอบ ออกมาโดนใจแฟนคลับมาก และใช้งานยาวมาถึง 2016 เลยทีเดียว

🧩 2015 มีการทำรำลึกตอนย้ายสนามออก จากการคืนพื้นที่ทำให้ทาง Umbro ทำเสื้อสัญลักษณ์พิเศษออกมาให้ The Boleyn Ground (อัพตัน พาร์ค) 1904-2016 โดยออกมาขายให้ทุกคน ในช่วงปลายซีซั่น ก่อนทางทีมจะย้ายไปเช่าสนามใหม่ ที่ใหญ่กว่า

🧩 2016 คราวนี้ป้อมหอคอยหายไป แต่มาเน้นที่ รูปทรงค้อนให้ดูเข้มแข็ง ด้วยการใช้สีตัดขอบ และเปลี่ยนอย่างอื่นเล็กน้อย โดยให้ ค้อน เป็น สีทอง เด่นที่สุด และเพิ่มคำว่า London ด้านล่าง เพื่อการเริ่มต้นเข้าสู่ สนามโอลิมปิกลอนดอน มาเป็นสนามเหย้าใหม่ของทีม

ชุดแข่งขันสโมสร เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

ชุดแข่งขันสโมสร เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

ชุดแข่งขัน 1 KUBET ดังกล่าวผลิตโดย อัมโบร (Umbro) ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุคที่สโมสรทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม มีอะคาเดมีเยาวชนที่แข็งแกร่ง พร้อมกับการคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ และ ยูโรเปี้ยนคัพวินเนอร์สคัพ นอกจากนี้ยังมีสามแข้งของ “เดอะ แฮมเมอร์ส” ที่พา ทีมชาติอังกฤษ เถลิงแชมป์โลกอีกด้วย ตัวเสื้อยังคงเป็น สีม่วงแดง (Claret) และ สีฟ้า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำสโมสร พร้อมด้วยกางเกง และถุงเท้าสีขาว ซึ่งถูกออกแบบ และดีไซน์โดยผ่านการปรึกษากับแฟนบอลบางส่วนอีกด้วย

เกียรติประวัติสโมสร สโมสร โลโก้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

ผู้จัดการทีมของสโมสร เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

🔹 UEFA Cup Winners’ Cup : แชมป์ 1965

🔹 FA Cup : แชมป์ 1964 ,1975 , 1980 รองแชมป์ 1923 , 2006

🔹 League Cup : รองแชมป์ 1966 , 1986

🔹 FA Charity Shield : แชมป์ 1964 รองแชมป์ 1975 , 1980

🔹 Football League War Cup : 1 : แชมป์ 1940

🔹 Southern Floodlit Cup : 1 : แชมป์ 1956 รองแชมป์ 1960

🔹 Essex Professional Cup : 3 : แชมป์ 1951 , 1955 ( Trophy Shared ) , 1959

🔹 รองแชมป์ 1952 , 198

🔹 Football League Second Division / Football League Championship ( ดิวิชั่น 1 ) :

🔹 แชมป์ 1957 – 58 , 1980 – 81 รองแชมป์ 1922 – 23 , 1990 – 91 , 1992 – 93

🔹 แชมป์เพลออฟ 2005 , 2012 รองแชมป์เพลออฟ 2014

🔹 Western Football League : แชมป์ 1906-07

ผู้จัดการทีมของสโมสร เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

จอห์น ไลอัลล์ ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมในปี 1974 ในระยะเพียงแค่ 1ปี เท่านั้น ก็ทำให้ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ได้เป็นแชมป์ เอฟ เอ คัพ เมื่อเอาชนะ ฟูแล่ม ไปได้ 2 ประตู ต่อ 0 ในปี 1975 หลังจากนั้นต่อมาเป็นเวลา อีก 5 ปี ที่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จครั้งสุดท้ายด้วยการเป็นแชมป์ เอฟ เอ คัพ เมื่อมีชัยเหนืออาร์เซนอล ที่ สนามเวมบลี่ย์ 1 ประตู ต่อ 0 ในขณะที่ เวสต์แฮม ทำได้ดีที่สุดอีกครั้ง ด้วยการเป็นทีมที่เล่นอยุ่ในดิวิชั่น 2 และในระยะเวลาที่ผ่านมาไม่นานนี้เอง เวสต์แฮม ทำได้ดีที่สุดอีกครั้ง ด้วยการได้อันดับ 3 ในดิวิชั่น 1 เมื่อปี1986 และในฤดูกาล ที่1998-19999 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทำได้ดีพอสมควรโดยได้อันดับที่ 5 ในพรีมียร์ชิพ แต่ว่ามีปัญหาความขัดแย้งอย่างรุนแรงในเรื่องของธุรกิจผลประโยชน์จากผู้จัดการทีม แฮรี่ เร๊ดแนปป์

แนะนำเว็บเดิมพัน เว็บมาแรง เปิดมานาน


รายชื่อนักเตะของสโมสร เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

เบอร์ รายชื่อ ตำแหน่ง สัญชาติ
1  ชาก้า ฮิสล๊อป  ผู้รักษาประตู  ตรินิแดด
 เดวิด เจมส์  ผู้รักษาประตู  อังกฤษ
22  เคร็ก ฟอร์เรสต์  ผู้รักษาประตู  แคนาดา
32  สตีเฟ่น บายวอลเตอร์  ผู้รักษาประตู  อังกฤษ
2  แกรี่ ชาร์ล  กองหลัง  อังกฤษ
4  สตีฟ พ็อดต์ส์  กองหลัง  อังกฤษ
15  ริโกแบร์ ซง  กองหลัง  แคมเมอร์ลูน
17  ไนเจล วินเธอร์เบินส์  กองหลัง  อังกฤษ
6  เฮย์เดน ฟ๊อกซ์  กองหลัง  –
19  เอียน เพียซ์  กองหลัง  อังกฤษ
20  สก๊อต มินโต้  กองหลัง  อังกฤษ
38  อดัม นิวตัน  กองหลัง  อังกฤษ
7  คริสเตียน เดลลี่  กองหลัง  สกอตแลน์
16  จอร์น มองเคอร์  กองกลาง  อังกฤษ
8  เทรเวอร์ ซินแคล์  กองกลาง  อังกฤษ
11  สตีฟ โลมาส  กองกลาง  ไอซ์แลนด์
16  จอร์น มองเคอร์  กองกลาง  อังกฤษ
26  โจ โคล  กองกลาง  อังกฤษ
21  ไมเคิ่ล คาร์ริค  กองกลาง  อังกฤษ
10  เปาโล ดิ คานิโอ  กองหน้า  อิตาลี
12  พอล คิตสัน  กองหน้า  อังกฤษ
14  เฟรเดริค คานูเต้  กองหน้า  ฝรั่งเศส
29  ติตี้ กามาร่า  กองหน้า  กินี
8  เมรเวอร์ ซินแคล์  กองหน้า  อังกฤษ

 

LineBar

The post ประวัติทีม เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ข้อมูลเกี่ยวกับสโมสร นักเตะ ข่าวสารอัพเดท appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
16898
ประวัติทีม ลาซิโอ เกียรติประวัติสโมสร รางวัลที่ได้รับ https://kubethda.com/lazio/ Wed, 24 Feb 2021 07:31:33 +0000 https://kubethda.com/?p=16897 ประวัติและความเป็นมา สโมสร ลาซิโอ ลาซิโอ หรือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการเป็นภาษาอิตาลีว่า Società Sportiva Lazio เจ้าของ ฉายา อินทรีย์ฟ้าขาว ตามที่คอบอลคนไทยเรียกกัน เป็นทีมฟุตบอลเก่า [...]

The post ประวัติทีม ลาซิโอ เกียรติประวัติสโมสร รางวัลที่ได้รับ appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
Lazio ลาซิโอ

ประวัติและความเป็นมา สโมสร ลาซิโอ

ลาซิโอ หรือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการเป็นภาษาอิตาลีว่า Società Sportiva Lazio เจ้าของ ฉายา อินทรีย์ฟ้าขาว ตามที่คอบอลคนไทยเรียกกัน เป็นทีมฟุตบอลเก่าแก่ทีมหนึ่งที่มีประวัติความเป็นมาค่อนข้างที่จะยาวนานมาก ๆโดยจุดเริ่มต้นที่มาของพวกเขามีมาตั้งแต่ปี คศ.1900 เป็นสโมสรกีฬาที่ถูกก่อตั้งขึ้นจากกลุ่มคน 9 คนรวมกันและได้ยกชื่อ เมือง Lazio เอามาเป็นชื่อของสโมสรในตอนนั้นแรกเริ่มเดิมทีก่อนที่ฟุตบอลจะขยายตัวจนเป็นที่รู้จัก Lazio เป็นสโมสรที่ปล่อยอิสระให้กับสมาชิกได้เลือกเล่นกีฬาทุกประเภทรวม ๆแล้ว 40 กว่าชนิดเห็นจะได้

แต่สิ่งที่เป็นตัวชูโรงให้กับสโมสรมากที่สุดก็เป็น ทีมฟุตบอล ufa579 ที่สร้างชื่อให้กับ แคว้นลัตซีโย เป็นอย่างมาก แม้ว่ากว่าที่พวกเขาจะก้าวเข้าไปถึงลีกสูงสุดของประเทศอิตาลีได้นั้นใช้เวลานานหลายสิบปี โดยหลังจากที่ทีมฟุตบอลกำเนิดขึ้น Lazio ต้องใช้เวลาไปกับการไต่เต้าจากการลงแข่งขันประจำรายการท้องถิ่นหรือรายการสมัครเล่น พวกเขาวนเวียนอยู่กับสังเวียนนี้อยู่นานถึง 10 จนสุดท้ายพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะก่อตั้งทีมฟุตบอลที่เป็นระดับอาชีพแบบจริง ๆจัง ๆขึ้นมาเพื่อจะได้ไปลงแข่งในระดับประเทศได้ ในช่วงปี 1913 องค์กรที่ถูกตั้งมาให้จัดการเกี่ยวกับระบบการเล่นของ กีฬาฟุตบอล ภายใต้ชื่อ FIGC ก็ได้มีการเปิดทัวร์นาเมนต์เกมลีกขึ้นเพื่อให้ฟุตบอลในประเทศเริ่มที่จะเป็นสากลมากกว่าเดิม โดยแบ่งเปิดเป็นลีกแข่งขันระดับภูมิภาคตอนกลางและตอนใต้ของ Lazio ผ่านเข้ารอบไปถึงนัดชิงในฐานะแชมป์ของทางตอนใต้ประเทศอิตาลีแต่ก็ต้องไปแพ้ให้กับ โปร แวร์เซลลี่ ในนัดชิงไปอย่างย่อยยับกลับมาและในทุก ๆ ปี

ชุดแข่งขันสโมสร ลาซิโอ

ผู้สนับสนุนสโมสร ลาซิโอ

ชุดแข่งขันสโมสร ลาซิโอ

ชุดแข่งที่เป็นเอกลักษณ์ของทีมคือ เสื้อสีท้องฟ้า ที่มาพร้อมกับ กางเกงและถุงเท้าสีขาว ซึ่ง เป็นสีที่แสดงถึง ชนชาติกรีก เชื้อสายดั้งเดิมของ ชาวโรมัน ก่อนที่ถุงเท้าสีฟ้าจะถูกเปลี่ยนมาใช้กับชุดแข่งทีมเหย้า

สนามเหย้าของสโมสร ลาซิโอ

สนามเหย้าของทีมมีชื่อว่า สตาดิโอ โอลิมปิโก ตั้งอยู่ภายในบริเวณศูนย์กีฬา โฟโร อิตาลีโก กรุงโรม ประเทศอิตาลี ถูกจัดระดับจาก UEFA ให้เป็นสนามฟุตบอลระดับ 5 ดาว ปัจจุบัน สนามแห่งนี้ได้รับการยอมรับว่า เป็นหนึ่งในสนามฟุตบอลมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และสนามแห่งนี้ยังเป็น สนามเหย้าของ สโมสรโรม่า คู่อริร่วมเมืองอีกด้วย

ผู้สนับสนุนสโมสร ลาซิโอ

ลาซิโอ คือสโมสรที่มีแฟนบอลซัพพอร์ทมากที่สุดเป็นอันดับ 6 ของประเทศและมากเป็นอันดับที่ 2 ของ กรุงโรม หรือคิดเป็นตัวเลขราว 2% จากจำนวนแฟนบอลชาวอิตาเลียนทั้งหมด Irriducibili Lazio คือกลุ่มแฟนบอลอุลตร้าที่ใหญ่ที่สุดของสโมสรโดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1987 พวกเขาคือกลุ่มกองเชียร์ที่คอยสร้างสีสันมากที่สุดระหว่าง เกม ดาร์บี้ เดลล่า คาปิตาเล่ (Derby della Capitale) หรือ ดาร์บี้แห่งกรุงโรม

สมัครสมาชิก UFA007

ผู้จัดการทีมสโมสร ลาซิโอ

เกือบ 4 ปีแล้ว ที่ ซิโมเน อินซากี เข้ามารับงานการคุมทีม ลาซิโอ ต่อจาก สเตฟาโน่ ปิโอลี ที่โดนปลดออกจาตำแหน่งหลังทีม “เบียงโคเซเลสเต” พ่ายยับเยินต่อ อาแอส โรมา คู่ปรับร่วมเมืองแบบไร้ทางสู้ 1-4 นับจากวันนั้นมา อินทรีหลับแห่งกรุงโรมค่อย ๆ สยายปีกออกมาให้เห็น แม้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดด ทว่าพวกเขาเป็นอินทรีที่กำลังรอคอยแรงลมซึ่งจะเกื้อหนุนพวกเขาอีกครั้ง และดูเหมือนลมที่เรียกว่า “โชคชะตา” กำลังพัดพาใต้ปีกของอินทรีตัวนี้ให้บินสูงอยู่ในตอนนี้ ผลงานไม่แพ้ใครใน 19 นัด หลังสุด ชนะไปได้ถึง 15 เสมอ 4

โดยพวกเขาเป็นเพียงสโมสรเดียวในศึก กัลโช เซเรีย อา ปีนี้ด้วย ที่เอาชนะทั้ง อินเตอร์ มิลาน และ ยูเวนตุส ได้ แถมเป็นการชนะแบบตามหลังไปก่อนทั้ง 2 นัดทำให้ตอนนี้พวกเขาแซงหน้าทีม “งูใหญ่” ขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูงที่ 56 คะแนน นำยอดทีมจาก มิลาน อยู่ 2 แต้ม และจี้แชมป์เก่าจาก ตูริน เพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น ซึ่งถือเป็นโอกาสลุ้นไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกในรอบ 5 ปี และยังเป็นการมีชื่นลุ้นแชมป์เต็มตัวครั้งแรกตั้งแต่ฤดูกาล 1999-2000 ด้วย ผลงานทั้งหมดนี้ อาจไม้ได้มากจากชายที่ชื่อว่า ซิโมเน อินซากี ทั้งหมด แต่เขาสมควรได้รับเครดิตไม่มากก็น้อย

ในการที่เข้ามาทำทีม “อินทรีฟ้าขาว” ให้ยิงใหญ่อีกครั้ง โดยฤดูกาลที่แล้ว เขาพาทีมคว้าแชมป์ โกปา อิตาเลีย สำเร็จมาแล้วก่อนด้วย ซิโมเน เป็นผู้ปฏิวัติ ลาซิโอ ในหลาย ๆ เรื่อง ทั้งการปรับให้มีการดูเทปเพื่อศึกษาเกมมากขึ้นกว่า สมัยปิโอลี เขามีคำสั่งอย่างเด็ดขาดให้นักกีฬาเข้านอนเป็นเวลา และต้องมากินมื้อเช้าพร้อมกันที่สนามซ้อม เพื่อให้นักเตะได้รับโภชนาการในมื้อแรกของวันที่ครบถ้วน เหนือสิ่งอื่นใดคือการที่เขาคืนชีพแผน 3-5-2 ให้กลับมาใช้เล่นงานคู่แข่งได้อีกครั้ง หลังแผนการเล่นนี้เหมือนตายไปแล้วในอดีต เข้าเดิมพัน KUBET ยูฟ่าเบท777 เว็บแทงบอลออนไลน์ ที่นักเดิมพันฮิต




เกียรติประวัติสโมสร Lazio

👾 ระดับประเทศ

 🔹 เซเรียอา

ชนะเลิศ (2): 1973–74 , 1999–00

 🔹 โกปปาอีตาเลีย

ชนะเลิศ (7): 1958, 1997–98, 1999–00, 2003–04, 2008–09, 2012–13, 2018–19

 🔹 ซูแปร์โกปปาอีตาเลียนา

ชนะเลิศ (4): 1998, 2000, 2009, 2019

 🔹 เซเรียบี

ชนะเลิศ (1): 1968–69

👾 ระดับทวีปยุโรป

 🔸 ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ

ชนะเลิศ (1): 1998–99

 🔸 ยูฟ่าซูเปอร์คัพ

ชนะเลิศ (1): 1999

The post ประวัติทีม ลาซิโอ เกียรติประวัติสโมสร รางวัลที่ได้รับ appeared first on KUBET เว็บตรง อันดับ 1 ไม่ผ่านเอเย่น แทงบอล เครดิตดีที่สุด.

]]>
16897